ทำเนียบรัฐบาล--25 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าของโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของกรมทรัพยากรธรณี สรุปได้ดังนี้
1. การจ้างเหมาเอกชนเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล (กำหนดวงเงินงบประมาณไว้ 2,449.5 ล้านบาท) จากผลการประกวดราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ยื่นซองประกวดราคาที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนข้อเสนอทางด้านเทคนิคที่กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของคะแนนทั้งหมดเพียงรายเดียว (จากผู้ยื่นซองประกวดราคาจำนวน 4 ราย) คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เธมส์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์วิส จำกัด (ITD-TWISL) ซึ่งได้เสนอค่าจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลในอัตรา 23 บาทต่อลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,645 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินวงเงินงบประมาณที่จะจ้าง ดังนั้น เพื่อความรอบคอบและให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตลอดจนเพื่อประหยัดเงินงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ยกเลิกการประกวดราคาในครั้งนี้ และดำเนินการประกวดราคาใหม่เรียบร้อยแล้ว เมื่อทราบผลการประกวดราคาจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลแล้วจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบต่อไปอีกครั้งหนึ่ง
2. การจ้างที่ปรึกษาโครงการ เพื่อให้งานด้านการกำกับ ดูแล การดำเนินงานของเอกชนในการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลตามโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกรมทรัพยากรธรณีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมทรัพยากรธรณีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล ได้ดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในวงเงิน 80.5 ล้านบาท เพื่อช่วยกรมทรัพยากรธรณีในการกำกับดูแลการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลของผู้รับจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเป็นระยะเวลา 5 ปี และขณะนี้การดำเนินการจ้างที่ปรึกษาดังกล่าวอยู่ในระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาของคณะกรรมการจัดจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก
3. ทุนของกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล กรมทรัพยากรธรณีได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณในปี 2544สำหรับเป็นทุนเพิ่มเติมจำนวน 35 ล้านบาท รวมกับทุนประเดิมกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล ซึ่งได้รับในปีงบประมาณ 2543 จำนวน 100 ล้านบาท รวมเป็นทุนที่ได้รับจนถึงปัจจุบัน จำนวน 135 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างที่ปรึกษาโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจำนวน 80.5 ล้านบาท ที่เหลือจะนำไปใช้เป็นค่าจ้างในการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าของโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของกรมทรัพยากรธรณี สรุปได้ดังนี้
1. การจ้างเหมาเอกชนเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล (กำหนดวงเงินงบประมาณไว้ 2,449.5 ล้านบาท) จากผลการประกวดราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ยื่นซองประกวดราคาที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนข้อเสนอทางด้านเทคนิคที่กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของคะแนนทั้งหมดเพียงรายเดียว (จากผู้ยื่นซองประกวดราคาจำนวน 4 ราย) คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เธมส์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์วิส จำกัด (ITD-TWISL) ซึ่งได้เสนอค่าจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลในอัตรา 23 บาทต่อลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,645 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินวงเงินงบประมาณที่จะจ้าง ดังนั้น เพื่อความรอบคอบและให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตลอดจนเพื่อประหยัดเงินงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ยกเลิกการประกวดราคาในครั้งนี้ และดำเนินการประกวดราคาใหม่เรียบร้อยแล้ว เมื่อทราบผลการประกวดราคาจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลแล้วจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบต่อไปอีกครั้งหนึ่ง
2. การจ้างที่ปรึกษาโครงการ เพื่อให้งานด้านการกำกับ ดูแล การดำเนินงานของเอกชนในการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลตามโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกรมทรัพยากรธรณีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมทรัพยากรธรณีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล ได้ดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในวงเงิน 80.5 ล้านบาท เพื่อช่วยกรมทรัพยากรธรณีในการกำกับดูแลการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลของผู้รับจ้างเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเป็นระยะเวลา 5 ปี และขณะนี้การดำเนินการจ้างที่ปรึกษาดังกล่าวอยู่ในระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาของคณะกรรมการจัดจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก
3. ทุนของกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล กรมทรัพยากรธรณีได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณในปี 2544สำหรับเป็นทุนเพิ่มเติมจำนวน 35 ล้านบาท รวมกับทุนประเดิมกองทุนหมุนเวียนน้ำบาดาล ซึ่งได้รับในปีงบประมาณ 2543 จำนวน 100 ล้านบาท รวมเป็นทุนที่ได้รับจนถึงปัจจุบัน จำนวน 135 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างที่ปรึกษาโครงการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจำนวน 80.5 ล้านบาท ที่เหลือจะนำไปใช้เป็นค่าจ้างในการเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 ต.ค. 2543--
-สส-