คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) (โครงการ PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ และอนุมัติงบประมาณชดเชยเพิ่มเติมไม่เกิน 8,302.50 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำความตกลงในการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวตามภาระที่เกิดขึ้นจริงกับสำนักงบประมาณต่อไป
กค. รายงานว่า เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น จึงขอปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการPGS ระยะที่ 6 ดังนี้
ให้รัฐบาลรับภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันแทนผู้ประกอบการ SMEs ในปีแรกในอัตรา ร้อยละ 1.75 ปีที่ 2 ร้อยละ 1.25 ปีที่ 3 0.75 และปีที่ 4 ร้อยละ 0.25 ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 5 (ปรับปรุงใหม่) ที่ผ่านมา เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ในภาวะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงฟื้นตัว รวมทั้งจูงใจให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักประกันสามารถยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ปรับเพิ่มการจ่ายชดเชยNPG โดยให้ บสย. รับผิดชอบจ่ายค่าประกันชดเชยในแต่ละ Portfolio จากเดิม Coverage Ratio per Port สูงสุดอยู่ไม่เกินร้อยละ 23.75 เพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของภาระค้ำประกันเฉลี่ย ณ วันสิ้นอายุการค้ำประกัน
บสย. จำเป็นต้องขอรับการชดเชยความเสียหานจากรัฐบาลตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเป็นเงินจำนวน 8,302.50 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 สิงหาคม 2560--