เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติเลื่อยยนต์ พ.ศ. ….

ทำเนียบรัฐบาล--8 ส.ค.--นิวส์สแตนด์
19. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติเลื่อยยนต์ พ.ศ. ….
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเลื่อยยนต์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการควบคุมเลื่อยยนต์ที่มีไว้ในครอบครอง สั่ง หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันและปราบปรามการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดคำนิยามของคำว่า "เลื่อยยนต์" ให้หมายความว่า เครื่องใช้สำหรับตัดไม้หรือแปรรูปไม้ที่มีใบเลื่อยลักษณะเป็นโซ่อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล และให้หมายความรวมถึงส่วนประกอบของสิ่งดังกล่าวด้วย
2. กำหนดให้การสั่งและการนำเข้าซึ่งเลื่อยยนต์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยยนต์ เว้นแต่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มีเลื่อยยนต์ไว้ใช้ปฏิบัติงาน การขออนุญาตและการอนุญาตดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
3. กำหนดให้ใบอนุญาตให้มีเลื่อยยนต์ต้องระบุพื้นที่ที่อนุญาตให้มีหรือใช้เลื่อยยนต์ไว้ด้วย การนำไปใช้นอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ต้องแจ้งและได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากผู้รับอนุญาตย้ายที่อยู่ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร์ ต้องแจ้งการย้ายต่อนายทะเบียน และหากจะนำเลื่อยยนต์ไปใช้ในถิ่นที่อยู่ใหม่ด้วยก็ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนเพื่อระบุพื้นที่ที่อนุญาตใหม่
4. กำหนดบทสันนิษฐานในกรณีตรวจพบเลื่อยยนต์นอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ให้สันนิษฐานว่ามีการใช้หรือมีเลื่อยยนต์ไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาสั่งริบเลื่อยยนต์ของศาล และถ้ามีการนำเลื่อยยนต์ที่ได้รับอนุญาตไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ก็ให้สันนิษฐานว่าผู้รับอนุญาตมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด และมีส่วนร่วมในการกระทำผิด ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ภาระการพิสูจน์ตกแก่ผู้รับอนุญาต
5. กรณีผู้รับอนุญาตตาย ทายาทหรือผู้จัดการมรดกต้องแจ้งการตายต่อนายทะเบียนเลื่อยยนต์ตามใบอนุญาตภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบการตาย ทายาทหรือผู้จัดการมรดกอาจขอใบอนุญาตใหม่ได้ ถ้านายทะเบียนฯ ไม่ออกใบอนุญาตให้ใหม่ ก็ให้สั่งให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกจัดการจำหน่ายเลื่อยยนต์นั้นภายใน 6 เดือน นับแต่วันรับคำสั่ง หากไม่ดำเนินการ ให้นายทะเบียนมีอำนาจขายทอดตลาดเลื่อยยนต์นั้น ได้เงินสุทธิเท่าใดให้ส่งมอบแก่ผู้มีสิทธิทำนองเดียวกับพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
6. ให้ศาลมีอำนาจพิพากษาให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับเป็นจำนวนไม่เกินกึ่งหนึ่งของค่าปรับตามคำพิพากษา ถ้าผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับไม่ถึงจำนวนที่ต้องจ่ายค่าสินบนนำจับให้จ่ายเท่าที่ผู้กระทำผิดชำระ ถ้าผู้นำจับหลายคน ให้แบ่งเท่า ๆ กัน การจ่ายจะจ่ายเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว
7. ในกรณีที่ผู้มีเลื่อยยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้ามาขอรับใบอนุญาตภายใน 60 วัน ไม่มีความผิดและให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาตให้ เว้นแต่ขาดคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ส่วนผู้มีเลื่อยยนต์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้มาขอรับใบอนุญาตภายใน 60 วันเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเป็นดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้หรือไม่ก็ได้ แต่มีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งไม่อนุญาต กรณีผู้ใดไม่ได้รับอนุญาตให้เลื่อยยนต์นั้นตกเป็นของแผ่นดิน แต่เจ้าของมีสิทธิได้รับค่าทดแทนตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีกำหนด เลื่อยที่ตกเป็นของแผ่นดินดังกล่าวให้นำไปใช้ประโยชน์ในราชการหรือจำหน่ายให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือทำลายตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 ส.ค. 2543--
-สส-