ทำเนียบรัฐบาล--29 ก.พ.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก พ.ศ. …. ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก 2 ระดับ คือระดับชาติและระดับจังหวัด ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เอกชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและผู้มีประสบการณ์การทำงานด้านสวัสดิการเด็ก โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล เสนอนโยบาย มาตรการ รวมทั้งวางระเบียบ หลักเกณฑ์ ให้คำแนะนำในการดำเนินงานสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก
3. กำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเด็ก โดยให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติ
4. กำหนดประเภทของเด็กที่ต้องได้รับการสงเคราะห์และวิธีการสงเคราะห์เด็ก
5. กำหนดประเภทของเด็กที่พึงได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ และวิธีการ รวมทั้งมาตรการพิเศษเพื่อคุ้มครองเด็ก
6. กำหนดเกี่ยวกับการจัดตั้ง อำนาจหน้าที่ ผู้มีอำนาจในการจัดตั้ง วิธีการดำเนินการ ผู้มีอำนาจกำกับดูแลการแต่งตั้งและถอดถอนผู้มีอำนาจดำเนินการของสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และสถานพัฒนาและฟื้นฟู
7. กำหนดวิธีการแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และกำหนดอำนาจหน้าที่ ตลอดจนข้อห้ามของผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
8. กำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา
9. กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก โดยที่มาของกองทุนมาจากเงินทุนประเดิมจากรัฐบาล เงินบริจาคหรือเงินอุดหนุนอื่น รวมทั้งดอกผลหรือประโยชน์ของกองทุน และได้มีการกำหนดวิธีการจัดการกองทุนด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2543--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก พ.ศ. …. ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก 2 ระดับ คือระดับชาติและระดับจังหวัด ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เอกชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและผู้มีประสบการณ์การทำงานด้านสวัสดิการเด็ก โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล เสนอนโยบาย มาตรการ รวมทั้งวางระเบียบ หลักเกณฑ์ ให้คำแนะนำในการดำเนินงานสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก
3. กำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเด็ก โดยให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติ
4. กำหนดประเภทของเด็กที่ต้องได้รับการสงเคราะห์และวิธีการสงเคราะห์เด็ก
5. กำหนดประเภทของเด็กที่พึงได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ และวิธีการ รวมทั้งมาตรการพิเศษเพื่อคุ้มครองเด็ก
6. กำหนดเกี่ยวกับการจัดตั้ง อำนาจหน้าที่ ผู้มีอำนาจในการจัดตั้ง วิธีการดำเนินการ ผู้มีอำนาจกำกับดูแลการแต่งตั้งและถอดถอนผู้มีอำนาจดำเนินการของสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และสถานพัฒนาและฟื้นฟู
7. กำหนดวิธีการแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และกำหนดอำนาจหน้าที่ ตลอดจนข้อห้ามของผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
8. กำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา
9. กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก โดยที่มาของกองทุนมาจากเงินทุนประเดิมจากรัฐบาล เงินบริจาคหรือเงินอุดหนุนอื่น รวมทั้งดอกผลหรือประโยชน์ของกองทุน และได้มีการกำหนดวิธีการจัดการกองทุนด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2543--