ทำเนียบรัฐบาล--26 ก.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ในระยะสั้นและระยะยาว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ตามข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ระยะสั้น
1.1 กำหนดระยะเวลาการผ่อนผันให้ชัดเจน และเมื่อพ้นกำหนดแล้วจะไม่มีการผ่อนผันอีกต่อไป
1.2 การผ่อนผันการจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายนั้น ให้เฉพาะตัวผู้ใช้แรงงาน ไม่อนุญาตให้เข้ามาทั้งครอบครัว
1.3 ขึ้นทะเบียนนายจ้างที่ได้รับการผ่อนผันให้จ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย และให้มีบทลงโทษแก่นายจ้างที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยเพิ่มโทษให้มากขึ้นตามจำนวนครั้งที่มีการกระทำผิด ตลอดจนการใช้มาตรการด้านสังคม
1.4 สำหรับหน่วยงานของรัฐจะต้องสร้างระบบฐานข้อมูล นายจ้าง และลูกจ้างต่างชาติ พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างชาติ พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างชาติให้ครบถ้วนถูกต้องและทันสมัย ตลอดจนจัดมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสาธารณสุข และเข้มงวดในการตรวจจับแรงงานต่างชาติเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้จัดหาและนายหน้า โดยมีมาตรการส่งกลับแรงงานดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
1.5 นอกจากนั้น ควรมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจซึ่งเป็นกำลังร่วมผสมของหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และเร่งสร้างแรงงานไทยเพื่อทดแทนแรงงานต่างชาติอย่างจริงจัง
2. ระยะยาว
จัดตั้งหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบปัญหาแรงงานต่างชาติให้เป็นระบบและมีความต่อเนื่อง โดยอยู่ในรูปของคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวแห่งชาติ มีผู้บริหารระดับสูงของประเทศเป็นประธาน (นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ/หรือ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม) และมีสำนักงานเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารจัดการคณะกรรมการฯ ให้มีความต่อเนื่องเป็นอิสระไม่ผูกพันกับงานประจำอย่างอื่น โดยทำหน้าที่ที่สำคัญคือประสานงานกับคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ที่จะตั้งขึ้นต่อไป โดยอาจจะจัดตั้งในรูปของเลขานุการร่วม ประกอบด้วย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม(กรมการจัดหางาน - สำนักงานจัดระบบแรงงานต่างด้าว) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น อาจจะเลือกหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นหลักไปก่อน เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ก.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ในระยะสั้นและระยะยาว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ตามข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ระยะสั้น
1.1 กำหนดระยะเวลาการผ่อนผันให้ชัดเจน และเมื่อพ้นกำหนดแล้วจะไม่มีการผ่อนผันอีกต่อไป
1.2 การผ่อนผันการจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายนั้น ให้เฉพาะตัวผู้ใช้แรงงาน ไม่อนุญาตให้เข้ามาทั้งครอบครัว
1.3 ขึ้นทะเบียนนายจ้างที่ได้รับการผ่อนผันให้จ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย และให้มีบทลงโทษแก่นายจ้างที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยเพิ่มโทษให้มากขึ้นตามจำนวนครั้งที่มีการกระทำผิด ตลอดจนการใช้มาตรการด้านสังคม
1.4 สำหรับหน่วยงานของรัฐจะต้องสร้างระบบฐานข้อมูล นายจ้าง และลูกจ้างต่างชาติ พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างชาติ พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างชาติให้ครบถ้วนถูกต้องและทันสมัย ตลอดจนจัดมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสาธารณสุข และเข้มงวดในการตรวจจับแรงงานต่างชาติเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้จัดหาและนายหน้า โดยมีมาตรการส่งกลับแรงงานดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
1.5 นอกจากนั้น ควรมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจซึ่งเป็นกำลังร่วมผสมของหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และเร่งสร้างแรงงานไทยเพื่อทดแทนแรงงานต่างชาติอย่างจริงจัง
2. ระยะยาว
จัดตั้งหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบปัญหาแรงงานต่างชาติให้เป็นระบบและมีความต่อเนื่อง โดยอยู่ในรูปของคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวแห่งชาติ มีผู้บริหารระดับสูงของประเทศเป็นประธาน (นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ/หรือ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม) และมีสำนักงานเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารจัดการคณะกรรมการฯ ให้มีความต่อเนื่องเป็นอิสระไม่ผูกพันกับงานประจำอย่างอื่น โดยทำหน้าที่ที่สำคัญคือประสานงานกับคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ที่จะตั้งขึ้นต่อไป โดยอาจจะจัดตั้งในรูปของเลขานุการร่วม ประกอบด้วย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม(กรมการจัดหางาน - สำนักงานจัดระบบแรงงานต่างด้าว) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น อาจจะเลือกหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นหลักไปก่อน เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ก.ย. 2543--
-สส-