คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโครงการหารายได้เพื่อการสาธารณประโยชน์โดยการออกสลากพิเศษตามรูปแบบและวิธีการที่กระทรวงการคลังเสนอ
กระทรวงการคลังรายงานว่า กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้พิจารณาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541 แล้วเห็นว่า เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้ระงับการขอออกสลากบำรุงการกุศลตามที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอมาเป็นราย ๆ ไว้ ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเห็นควรให้มีการออกสลากแทนการออกสลากบำรุงการกุศลเดิม โดยเห็นควรออกสลากพิเศษเพื่อนำรายได้ไปใช้จ่ายในโครงการสำหรับกิจการสาธารณประโยชน์ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหรือกรณีซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายเงินจากงบประมาณแผ่นดินได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหลักการและสาระสำคัญ ดังนี้
1. หลักการ
1.1 ให้มีเงินรายได้ปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ที่จำเป็นเร่งด่วน หรือกรณีซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายเงินจากงบประมาณแผ่นดินได้
1.2 เพื่อสามารถจัดสรรรายได้จากการออกสลากพิเศษไปใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของรัฐและเป็นแนวทางเดียวกัน โดยคำนึงถึงความจำเป็นทั้งระบบ และมีขั้นตอนในการพิจารณาอนุมัติอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมที่เป็นการอนุมัติการออกสลากบำรุงการกุศลเป็นกรณี ๆ ไป ทำให้มีการนำเงินไปใช้จ่ายอย่างกระจัดกระจาย ไม่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐ
1.3 มีการจัดสรรรายได้เพื่อช่วยเหลือให้แก่คนพิการเป็นการเฉพาะด้วยส่วนหนึ่ง
1.4 การเปลี่ยนแปลงการออกสลากพิเศษครั้งนี้ จำนวนสลากที่พิมพ์ออกจำหน่ายยังคงเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้ผู้พิการและผู้จำหน่ายสลากทั่วไปไม่มีผลกระทบแต่ประการใด
1.5 จะมีการนำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้นจากการดำเนินการในลักษณะนี้ด้วย
2. รูปแบบและวิธีการ
2.1 โครงการหารายได้เพื่อการสาธารณประโยชน์โดยการออกสลากพิเศษ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกสลากพิเศษ เพื่อหารายได้สำหรับโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์ ในวงเงินปีละประมาณ 4,000 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าของโครงการ
2.2 การจัดสรรรายได้
1) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้บริหารโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์ โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการฯ เพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการจัดสรรรายได้ตามหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการโครงการฯ ดังกล่าว จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้สำเร็จตามหลักการและวัตถุประสงค์ด้วยก็ได้
2) การขอใช้เงินรับความช่วยเหลือจากเงินรายได้โครงการฯ ดังกล่าว กรณีเป็นส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรของรัฐ ให้เสนอผ่านกระทรวงเจ้าสังกัด โดยชี้แจงเหตุผลและเป้าหมายการใช้เงินอย่างชัดเจน ส่วนกรณีเป็นหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ให้เสนอขอรับการช่วยเหลือตามระเบียบที่คณะกรรมการโครงการฯ กำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
3) การดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อให้บรรลุตามหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด
4) ให้คณะกรรมการโครงการฯ รายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบทุก 6 เดือน
การที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่องดังกล่าว เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายน 2544 การออกสลากบำรุงการกุศลงวดสุดท้ายที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง หากไม่มีการออกสลากพิเศษทดแทน ก็จะทำให้สลากที่พิมพ์ออกจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อทั้งประชาชนผู้ซื้อสลากและผู้จำหน่ายสลากทั่วไปโดยมีผู้พิการรวมอยู่ด้วย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องคงจำนวนการออกสลากโดยรวมไว้เหมือนเดิม และการอนุญาตให้มีการออกสลากบำรุงการกุศลที่ผ่านมา จะดำเนินการเป็นคราว ๆ ไป ตามความต้องการของส่วนราชการ หรือองค์กรต่าง ๆ ดังนั้น การระงับการขอออกสลากบำรุงการกุศลตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยเปลี่ยนแปลงให้มีการออกสลากพิเศษซึ่งจะมีการจัดระบบในการพิจารณาจัดสรรรายได้เพื่อการต่าง ๆ ได้อย่างรัดกุมชัดเจน และเป็นไปในแนวทางเดียวกันตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะทำให้มีการจัดสรรรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดสรรรายได้ให้แก่หน่วยงานหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แต่ยังดำเนินการได้ไม่เต็มที่เนื่องจากการถูกจำกัดด้านงบประมาณ เช่นการช่วยเหลือด้านสังคม การศึกษา ศาสนาและสาธารณสุข หรือในกรณีจำเป็น เช่น เกิดวาตภัย อุทกภัย ตลอดจนกรณีจำเป็นอื่น ๆ ที่รัฐไม่สามารถจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 ต.ค. 44--
-สส-
กระทรวงการคลังรายงานว่า กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้พิจารณาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541 แล้วเห็นว่า เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้ระงับการขอออกสลากบำรุงการกุศลตามที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอมาเป็นราย ๆ ไว้ ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเห็นควรให้มีการออกสลากแทนการออกสลากบำรุงการกุศลเดิม โดยเห็นควรออกสลากพิเศษเพื่อนำรายได้ไปใช้จ่ายในโครงการสำหรับกิจการสาธารณประโยชน์ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหรือกรณีซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายเงินจากงบประมาณแผ่นดินได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหลักการและสาระสำคัญ ดังนี้
1. หลักการ
1.1 ให้มีเงินรายได้ปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ที่จำเป็นเร่งด่วน หรือกรณีซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายเงินจากงบประมาณแผ่นดินได้
1.2 เพื่อสามารถจัดสรรรายได้จากการออกสลากพิเศษไปใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของรัฐและเป็นแนวทางเดียวกัน โดยคำนึงถึงความจำเป็นทั้งระบบ และมีขั้นตอนในการพิจารณาอนุมัติอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมที่เป็นการอนุมัติการออกสลากบำรุงการกุศลเป็นกรณี ๆ ไป ทำให้มีการนำเงินไปใช้จ่ายอย่างกระจัดกระจาย ไม่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐ
1.3 มีการจัดสรรรายได้เพื่อช่วยเหลือให้แก่คนพิการเป็นการเฉพาะด้วยส่วนหนึ่ง
1.4 การเปลี่ยนแปลงการออกสลากพิเศษครั้งนี้ จำนวนสลากที่พิมพ์ออกจำหน่ายยังคงเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้ผู้พิการและผู้จำหน่ายสลากทั่วไปไม่มีผลกระทบแต่ประการใด
1.5 จะมีการนำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้นจากการดำเนินการในลักษณะนี้ด้วย
2. รูปแบบและวิธีการ
2.1 โครงการหารายได้เพื่อการสาธารณประโยชน์โดยการออกสลากพิเศษ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกสลากพิเศษ เพื่อหารายได้สำหรับโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์ ในวงเงินปีละประมาณ 4,000 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าของโครงการ
2.2 การจัดสรรรายได้
1) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้บริหารโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์ โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการฯ เพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการจัดสรรรายได้ตามหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการโครงการฯ ดังกล่าว จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้สำเร็จตามหลักการและวัตถุประสงค์ด้วยก็ได้
2) การขอใช้เงินรับความช่วยเหลือจากเงินรายได้โครงการฯ ดังกล่าว กรณีเป็นส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรของรัฐ ให้เสนอผ่านกระทรวงเจ้าสังกัด โดยชี้แจงเหตุผลและเป้าหมายการใช้เงินอย่างชัดเจน ส่วนกรณีเป็นหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ให้เสนอขอรับการช่วยเหลือตามระเบียบที่คณะกรรมการโครงการฯ กำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
3) การดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อให้บรรลุตามหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด
4) ให้คณะกรรมการโครงการฯ รายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบทุก 6 เดือน
การที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่องดังกล่าว เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายน 2544 การออกสลากบำรุงการกุศลงวดสุดท้ายที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง หากไม่มีการออกสลากพิเศษทดแทน ก็จะทำให้สลากที่พิมพ์ออกจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อทั้งประชาชนผู้ซื้อสลากและผู้จำหน่ายสลากทั่วไปโดยมีผู้พิการรวมอยู่ด้วย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องคงจำนวนการออกสลากโดยรวมไว้เหมือนเดิม และการอนุญาตให้มีการออกสลากบำรุงการกุศลที่ผ่านมา จะดำเนินการเป็นคราว ๆ ไป ตามความต้องการของส่วนราชการ หรือองค์กรต่าง ๆ ดังนั้น การระงับการขอออกสลากบำรุงการกุศลตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยเปลี่ยนแปลงให้มีการออกสลากพิเศษซึ่งจะมีการจัดระบบในการพิจารณาจัดสรรรายได้เพื่อการต่าง ๆ ได้อย่างรัดกุมชัดเจน และเป็นไปในแนวทางเดียวกันตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะทำให้มีการจัดสรรรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดสรรรายได้ให้แก่หน่วยงานหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แต่ยังดำเนินการได้ไม่เต็มที่เนื่องจากการถูกจำกัดด้านงบประมาณ เช่นการช่วยเหลือด้านสังคม การศึกษา ศาสนาและสาธารณสุข หรือในกรณีจำเป็น เช่น เกิดวาตภัย อุทกภัย ตลอดจนกรณีจำเป็นอื่น ๆ ที่รัฐไม่สามารถจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 ต.ค. 44--
-สส-