คณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้เงินภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้การติดตามเร่งรัดการใช้เงินครอบคลุมถึงการใช้จ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจ เงินกู้ต่างประเทศและเงินกองทุนนอกงบประมาณในความรับผิดชอบของส่วนราชการ และเพื่อให้สามารถติดตามผลและวิเคราะห์ภาพรวมการใช้จ่ายเงินของภาครัฐ และกำหนดมาตรการเร่งรัดหรือแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงมีมิตเห็นชอบมาตรการและแนวทางดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังนี้
1. ให้ทุกส่วนราชการกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน และให้คณะกรรมการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติราชการที่แต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2544 ใช้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จอย่างหนึ่งในการบริหารองค์กร
2. ให้กระทรวงการคลังแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เป็นประธานกรรมการ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ร่วมเป็นกรรมการ และมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินภาครัฐ รวมทั้งเสนอมาตรการเร่งรัดหรือแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมเพื่อให้การใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เป็นไปตามเป้าหมาย
3. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายลงทุนส่งสำเนาแผนการจัดซื้อจัดจ้าง และแผนการเบิกจ่ายเงิน (ข้อมูลตามแบบ สงป. 370) ให้กรมบัญชีกลางเป็นข้อมูลในการติดตามผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
สำหรับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ เงินนอกงบประมาณประเภทเงินทุนและกองทุน และเงินที่จัดหามาได้จากการดำเนินกิจกรรมตามภารกิจ ให้จัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงิน ส่งให้คณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่คณะกรรมการฯ จะกำหนดต่อไป
4. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีหัวหน้าหรือรองหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ตามข้อ 3 รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ผู้บริหารของหน่วยงาน ปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบเป็นประจำทุกเดือน และส่งสำเนาผลการดำเนินงานและความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาให้คณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐทราบด้วย
5. ให้กระทรวงมหาดไทยกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการในส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับงบประมาณโครงการถ่ายโอนฯ และให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีคลังจังหวัดร่วมเป็นคณะทำงานและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ตามข้อ 3 ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง (สำนักงานคลังจังหวัด) รายงานผลการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานในจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเพื่อติดตามเร่งรัดผลการดำเนินงานของส่วนราชการในจังหวัด
6. ให้กระทรวงการคลังโดยคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐรายงานผลการดำเนินงานและ การใช้จ่ายเงินภาครัฐของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปัญหาและอุปสรรคในการใช้จ่ายเงิน และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดการใช้จ่ายเงินภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 ต.ค. 44--
-สส-
1. ให้ทุกส่วนราชการกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน และให้คณะกรรมการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติราชการที่แต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2544 ใช้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จอย่างหนึ่งในการบริหารองค์กร
2. ให้กระทรวงการคลังแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เป็นประธานกรรมการ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ร่วมเป็นกรรมการ และมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินภาครัฐ รวมทั้งเสนอมาตรการเร่งรัดหรือแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมเพื่อให้การใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เป็นไปตามเป้าหมาย
3. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายลงทุนส่งสำเนาแผนการจัดซื้อจัดจ้าง และแผนการเบิกจ่ายเงิน (ข้อมูลตามแบบ สงป. 370) ให้กรมบัญชีกลางเป็นข้อมูลในการติดตามผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
สำหรับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ เงินนอกงบประมาณประเภทเงินทุนและกองทุน และเงินที่จัดหามาได้จากการดำเนินกิจกรรมตามภารกิจ ให้จัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงิน ส่งให้คณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่คณะกรรมการฯ จะกำหนดต่อไป
4. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีหัวหน้าหรือรองหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ตามข้อ 3 รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ผู้บริหารของหน่วยงาน ปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบเป็นประจำทุกเดือน และส่งสำเนาผลการดำเนินงานและความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาให้คณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐทราบด้วย
5. ให้กระทรวงมหาดไทยกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการในส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับงบประมาณโครงการถ่ายโอนฯ และให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีคลังจังหวัดร่วมเป็นคณะทำงานและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ตามข้อ 3 ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง (สำนักงานคลังจังหวัด) รายงานผลการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานในจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเพื่อติดตามเร่งรัดผลการดำเนินงานของส่วนราชการในจังหวัด
6. ให้กระทรวงการคลังโดยคณะกรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐรายงานผลการดำเนินงานและ การใช้จ่ายเงินภาครัฐของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปัญหาและอุปสรรคในการใช้จ่ายเงิน และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดการใช้จ่ายเงินภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 ต.ค. 44--
-สส-