เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 (ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. .... ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เรื่อง รายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน)
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. .... และเห็นชอบในหลักการ ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เรื่อง รายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน รวม 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงานไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. อนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดและการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. .... และร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เรื่อง การประกาศรายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน รวม 3 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 พฤษภาคม 2559) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศ รวม 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เป็นการปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศ รวม 3 ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยเป็นการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 12) ที่มีความเห็นว่า ร่างกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 ทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว มีการบัญญัติเกินอำนาจของกฎหมายแม่บท และขาดหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีในกฎหมายลำดับรองดังกล่าว
1. ร่างพระราชกฤษฎีกาได้แก้ไขเพิ่มเติมคำนิยามคำว่า จำนวนเงินสะสมสูงสุดและกระแสเงินสด แทนการให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจัดทำข้อมูลของหน่วยงานของรัฐประกอบการคำนวณจำนวนเงินสะสมสูงสุด และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน โดยตัดกำหนดระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูลฯ ออก และให้กรมบัญชีกลางมีอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์ เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณจำนวนเงินสะสมสูงสุดและการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจในการนำผลการพิจารณาการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน โดยให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนแทนกระทรวงการคลัง และแก้ไขเพิ่มเติมให้กระทรวงการคลังใช้อำนาจตามข้อบังคับตามที่กำหนด อันจะทำให้การกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนหมุนเวียนมีประสิทธิภาพ สามารถเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559
2. ร่างประกาศคณะกรรมการฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมโดยให้เป็นประกาศที่เป็นการกำหนดชื่อหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ ตัดอำนาจของกระทรวงการคลังในการประกาศรายชื่อหน่วยงานของรัฐที่มีการจัดตั้งทุนหมุนเวียนขึ้นใหม่ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐที่ไม่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติฉบับนี้ ออก เนื่องจากร่างประกาศในเรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการฯ
3. ร่างประกาศกระทรวงการคลังนั้นเป็นการแก้ไขจากร่างประกาศฉบับเดิมเล็กน้อย โดยแก้ไขเรื่องลักษณะของทุนหมุนเวียนที่จะขอตั้งตามข้อ 4 (4) เดิม มากำหนดไว้ในหลักการการจัดตั้งทุนหมุนเวียนในข้อ 3 (4) ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 สิงหาคม 2560--