คณะรัฐมนตรีรับทราบปาฐกถาพิเศษของนายกรัฐมนตรี เรื่อง มิติใหม่ของการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย : หัวใจแห่งการพัฒนาชาติ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนเชิงนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญ ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยรายงาน ดังนี้
1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถา เรื่อง มิติใหม่ของการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย : หัวใจแห่งการพัฒนาชาติ ในระหว่างการประชุมสัมมนาทางวิชาการที่ทบวงมหาวิทยาลัยร่วมกับที่ประชุมประธานสภาอาจารย์ทั่วประเทศ (ปอมท.) จัดขึ้น เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2544 ณ จังหวัดพิษณุโลก นั้น เนื่องจากการแสดงปาฐกถาดังกล่าวเป็นการเสนอแนวคิดเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษาของนายกรัฐมนตรีที่ชัดเจนที่สุดซึ่งประชาคมมหาวิทยาลัยต้องยึดถือและใช้เป็นแนวนโยบายในการดำเนินงาน ทบวงมหาวิทยาลัยจึงได้จัดพิมพ์คำบรรยายดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป
2. นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดเชิงนโยบายเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐว่า ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐในลักษณะ Strategic Business Unit (SBU) ที่มีอำนาจในการจัดระบบบริหารด้วยตนเอง และมีรูปแบบเช่นเดียวกับ State University ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่สามารถให้บริการการศึกษาในราคาที่ไม่แพง โดยรัฐให้เงินอุดหนุนส่วนหนึ่งรวมกับรายได้จากการดำเนินภารกิจของมหาวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนแล้ว มหาวิทยาลัยต้องจัดระบบบริหารของตนอย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยความรับผิดชอบ พนักงานของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีสถานภาพเป็นข้าราชการอีกประเภทหนึ่งที่มหาวิทยาลัยสามารถกำหนดอัตราเงินเดือนและวิธีการจ้างได้เอง ข้าราชการที่ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานก็สามารถคงสถานภาพของข้าราชการไว้ได้
3. นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ การพัฒนาห้องสมุดให้มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นที่สนใจของนิสิตนักศึกษา และการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งสนับสนุนการวิจัยที่สำคัญของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 ต.ค. 44--
-สส-
1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถา เรื่อง มิติใหม่ของการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย : หัวใจแห่งการพัฒนาชาติ ในระหว่างการประชุมสัมมนาทางวิชาการที่ทบวงมหาวิทยาลัยร่วมกับที่ประชุมประธานสภาอาจารย์ทั่วประเทศ (ปอมท.) จัดขึ้น เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2544 ณ จังหวัดพิษณุโลก นั้น เนื่องจากการแสดงปาฐกถาดังกล่าวเป็นการเสนอแนวคิดเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษาของนายกรัฐมนตรีที่ชัดเจนที่สุดซึ่งประชาคมมหาวิทยาลัยต้องยึดถือและใช้เป็นแนวนโยบายในการดำเนินงาน ทบวงมหาวิทยาลัยจึงได้จัดพิมพ์คำบรรยายดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป
2. นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดเชิงนโยบายเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐว่า ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐในลักษณะ Strategic Business Unit (SBU) ที่มีอำนาจในการจัดระบบบริหารด้วยตนเอง และมีรูปแบบเช่นเดียวกับ State University ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่สามารถให้บริการการศึกษาในราคาที่ไม่แพง โดยรัฐให้เงินอุดหนุนส่วนหนึ่งรวมกับรายได้จากการดำเนินภารกิจของมหาวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนแล้ว มหาวิทยาลัยต้องจัดระบบบริหารของตนอย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยความรับผิดชอบ พนักงานของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีสถานภาพเป็นข้าราชการอีกประเภทหนึ่งที่มหาวิทยาลัยสามารถกำหนดอัตราเงินเดือนและวิธีการจ้างได้เอง ข้าราชการที่ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานก็สามารถคงสถานภาพของข้าราชการไว้ได้
3. นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ การพัฒนาห้องสมุดให้มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นที่สนใจของนิสิตนักศึกษา และการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งสนับสนุนการวิจัยที่สำคัญของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 ต.ค. 44--
-สส-