ทำเนียบรัฐบาล--8 ส.ค.--นิวส์สแตนด์
4. เรื่อง การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11 ให้แก่บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขอรับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (กปส.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทางการที่จะสนับสนุนให้สถาบันการเงินที่ประสบปัญหาในการเพิ่มเงินกองทุน สามารถขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนจากทางการได้ตามมาตรา 14 สิงหาคม 2541 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้อนุมัติเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 แก่บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) โดยให้กระทรวงการคลังเข้าซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 93.0 ล้านบาท โดยบริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในการนี้กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรรัฐบาลในจำนวนที่เท่ากัน โดยกำหนดให้พันธบัตรรัฐบาลใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ณ วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติ ซึ่งเป็นวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ลบร้อยละ 1 พันธบัตรมีอายุ 10 ปี ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2543 ในวงเงิน 93.0 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้ว จะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 229,372.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2542 อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ภายใต้วงเงินที่เหลืออยู่อีก จำนวน 298,335 ล้านบาทได้ โดยการออกพันธบัตร และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติเงื่อนไขของการกู้เงินจำนวนดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยกระทรวงการคลังจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 ส.ค. 2543--
-สส-
4. เรื่อง การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 11 ให้แก่บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขอรับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (กปส.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทางการที่จะสนับสนุนให้สถาบันการเงินที่ประสบปัญหาในการเพิ่มเงินกองทุน สามารถขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนจากทางการได้ตามมาตรา 14 สิงหาคม 2541 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้อนุมัติเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 แก่บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) โดยให้กระทรวงการคลังเข้าซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 93.0 ล้านบาท โดยบริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในการนี้กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรรัฐบาลในจำนวนที่เท่ากัน โดยกำหนดให้พันธบัตรรัฐบาลใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ณ วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติ ซึ่งเป็นวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ลบร้อยละ 1 พันธบัตรมีอายุ 10 ปี ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2543 ในวงเงิน 93.0 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้ว จะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 229,372.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2542 อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ภายใต้วงเงินที่เหลืออยู่อีก จำนวน 298,335 ล้านบาทได้ โดยการออกพันธบัตร และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติเงื่อนไขของการกู้เงินจำนวนดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยกระทรวงการคลังจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 ส.ค. 2543--
-สส-