1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. …. ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
3. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (24 พฤศจิกายน 2558) ที่ให้โอนภารกิจด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไปไว้ที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมอบให้เป็นภารกิจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
1. กำหนดนิยามคำว่า “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” “ความคิดสร้างสรรค์” “สำนักงาน” “คณะกรรมการ” “ผู้อำนวยการ” “เจ้าหน้าที่” “ลูกจ้าง” และคำว่า “รัฐมนตรี” เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการ บังคับใช้ 2. กำหนดให้สำนักงานมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมสนับสนุนนวัตกรรมและการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งจัดเก็บข้อมูล สถิติองค์ความรู้ และนวัตกรรมต่าง ๆ พัฒนาผู้ประกอบการ และส่งเสริมให้เกิดการนำกระบวนคิดเชิงสร้างสรรค์ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้ง ส่งเสริมและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
3. กำหนดทุนและทรัพย์สินในการดำเนินงานของสำนักงานประกอบด้วยเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา 41 เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม เงินอุดหนุนทั่วไป เงินอุดหนุนจากเอกชน ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือรายได้จากการดำเนินกิจการ รวมถึงดอกผลหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดจากทรัพย์สินของสำนักงาน
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการ ประกอบด้วยประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 4 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 5 คน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง โดยมีผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง
5. กำหนดให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เว้นแต่เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี เมื่อพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
6. กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสำนักงาน อำนาจเช่นว่านั้นให้รวมถึงการกำหนดนโยบายการบริหารงาน อนุมัติแผนการลงทุน แผนการเงิน ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับสำนักงานในเรื่องการแบ่งส่วนงาน การกำหนดตำแหน่ง การคัดเลือก บรรจุ แต่งตั้ง วินัยและการลงโทษวินัย การออกจากตำแหน่ง การกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่และลูกจ้าง รวมทั้งกำหนดเครื่องหมายของสำนักงาน เป็นต้น
7. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบัญชี การตรวจสอบ และการประเมินผลงาน โดยกำหนดให้การบัญชีของสำนักงานให้จัดทำตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี และต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการเงิน การบัญชีและการพัสดุของสำนักงาน และให้ปฏิบัติงานของสำนักงานทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบภายในให้รับผิดชอบขึ้นตรงต่อคณะกรรมการ และการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนเงินเดือน และลงโทษวินัยของผู้ตรวจสอบภายใน ให้ผู้อำนวยการและคณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาร่วมกันแล้วเสนอให้คณะกรรมการให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ
8. กำหนดบทเฉพาะกาล ในวาระเริ่มแรก ให้ผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2547 ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการตามพระราชกฤษฎีกานี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งต้องไม่เกิน 90 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ หากยังไม่สามารถสรรหาได้ให้ขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 60 วัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2560--