คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 70,000 ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยสำนักงบประมาณได้ประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อยืนยันประมาณการรายได้ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 อีกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงช่วงเวลาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของรัฐบาลใหม่
แนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล จำนวน 70,000 ล้านบาท เห็นควรดำเนินการในลักษณะงบกลางเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการ โดยแบ่งการจัดสรรออกเป็น
1. ค่าใช้จ่ายตามมาตรการเสริมสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3,600 ล้านบาท เนื่องจากในขณะนี้ สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ยุติและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้ปฏิบัติงานอื่น ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2547 ให้ช่วยด้านสิทธิในการนับเวลาราชการทวีคูณสิทธิการได้ รับเงิน สปพ.(เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ) เงินตอบแทนพิเศษรายเดือนและการประกันภัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2548 ส่วนราชการมิได้ตั้งงบประมาณเพื่อการดังกล่าว และเพื่อใช้ในการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านความมั่นคง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าว เป็นจำนวน 3,600 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายตามมาตรการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน จำนวน 10,000 ล้านบาท ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการแก้ไขความยากจนให้หมดไปภายในปี 2551 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่มาจดทะเบียนปัญหาจำนวน 8.04 ล้านคน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสภาพข้อเท็จจริงของปัญหาคาดว่าจะใช้จ่ายงบประมาณ 17,000 ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ได้จัดสรรงบประมาณไว้แล้ว 7,000 ล้านบาท จึงต้องใช้ งบเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านบาท
3. เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 10,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 11,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับภาวะปกติ แต่ปัจจุบันคาดว่าจะต้องดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติและภัยแล้ง และดำเนินงานตามมาตรการเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งต้องเตรียมการรับรองสถานการณ์ที่ฉุกเฉินเร่งด่วนจำเป็นอื่น ๆ ดังนั้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณรองรับมาตรการและสถานการณ์ดังกล่าว จึงเห็นควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 10,000 ล้านบาท
4. เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด จำนวน 6,400 ล้านบาท เพื่อคงสัดส่วนรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาลที่ร้อยละ 23.5 ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าตามความต้องการและศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกันพิจารณาให้สอดคล้อง และสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ด้วยพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รัฐได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วจำนวน 110,610.7 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีก 6,458 ล้านบาท หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท โดยงบเงินอุดหนุนที่จัดสรรเพิ่มให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนี้ ควรตั้งไว้ที่งบกลางรายการเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด
5. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ จำนวน 40,000 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรเพื่อไปดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศในบางภารกิจยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนบางกิจกรรมเพื่อให้สามารถสอดรับกับความต้องการของจังหวัดแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการสามารถพัฒนาจังหวัดของตนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนยุทธศาตร์การพัฒนาจังหวัดปี 2548 จึงเห็นควรสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการเพื่อไปดำเนินการตามแผนดังกล่าวเป็นจำนวน 40,000 ล้านบาท
ระยะเวลาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เห็นควรเตรียมการโดยนำเสนอแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ต่อคณะรัฐมนตรีในวาระของรัฐบาลปัจจุบัน และนำเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาทบทวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 อีกครั้งเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว และคาดว่ารัฐบาลจะสามารถเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ต่อรัฐสภาได้ในวันที่ 5 เมษายน 2548 แต่หากพิจารณาระยะเวลาดำเนินการตามที่กำหนดไว้ตามมาตรา 180 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 จะต้องใช้ระยะเวลาสูงสุดถึง 125 วัน จะทำให้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ออกใช้บังคับไม่ทันต่อความจำเป็นในการใช้จ่าย ดังนั้นจึงเห็นควรกำหนดให้การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 1 เป็นวันที่ 20 เมษายน 2548 วาระที่ 2-3 เป็นวันที่ 4 พฤษภาคม 2548 และการพิจารณาของวุฒิสภาเป็นวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติของรัฐสภา และหากดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 มกราคม 2548--จบ--
แนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล จำนวน 70,000 ล้านบาท เห็นควรดำเนินการในลักษณะงบกลางเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการ โดยแบ่งการจัดสรรออกเป็น
1. ค่าใช้จ่ายตามมาตรการเสริมสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3,600 ล้านบาท เนื่องจากในขณะนี้ สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ยุติและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้ปฏิบัติงานอื่น ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2547 ให้ช่วยด้านสิทธิในการนับเวลาราชการทวีคูณสิทธิการได้ รับเงิน สปพ.(เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ) เงินตอบแทนพิเศษรายเดือนและการประกันภัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2548 ส่วนราชการมิได้ตั้งงบประมาณเพื่อการดังกล่าว และเพื่อใช้ในการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านความมั่นคง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าว เป็นจำนวน 3,600 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายตามมาตรการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน จำนวน 10,000 ล้านบาท ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการแก้ไขความยากจนให้หมดไปภายในปี 2551 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่มาจดทะเบียนปัญหาจำนวน 8.04 ล้านคน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสภาพข้อเท็จจริงของปัญหาคาดว่าจะใช้จ่ายงบประมาณ 17,000 ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ได้จัดสรรงบประมาณไว้แล้ว 7,000 ล้านบาท จึงต้องใช้ งบเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านบาท
3. เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 10,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 11,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับภาวะปกติ แต่ปัจจุบันคาดว่าจะต้องดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติและภัยแล้ง และดำเนินงานตามมาตรการเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งต้องเตรียมการรับรองสถานการณ์ที่ฉุกเฉินเร่งด่วนจำเป็นอื่น ๆ ดังนั้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณรองรับมาตรการและสถานการณ์ดังกล่าว จึงเห็นควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 10,000 ล้านบาท
4. เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด จำนวน 6,400 ล้านบาท เพื่อคงสัดส่วนรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาลที่ร้อยละ 23.5 ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าตามความต้องการและศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกันพิจารณาให้สอดคล้อง และสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ด้วยพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รัฐได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วจำนวน 110,610.7 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอีก 6,458 ล้านบาท หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท โดยงบเงินอุดหนุนที่จัดสรรเพิ่มให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนี้ ควรตั้งไว้ที่งบกลางรายการเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด
5. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ จำนวน 40,000 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรเพื่อไปดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศในบางภารกิจยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนบางกิจกรรมเพื่อให้สามารถสอดรับกับความต้องการของจังหวัดแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการสามารถพัฒนาจังหวัดของตนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนยุทธศาตร์การพัฒนาจังหวัดปี 2548 จึงเห็นควรสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการเพื่อไปดำเนินการตามแผนดังกล่าวเป็นจำนวน 40,000 ล้านบาท
ระยะเวลาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เห็นควรเตรียมการโดยนำเสนอแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ต่อคณะรัฐมนตรีในวาระของรัฐบาลปัจจุบัน และนำเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาทบทวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 อีกครั้งเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว และคาดว่ารัฐบาลจะสามารถเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ต่อรัฐสภาได้ในวันที่ 5 เมษายน 2548 แต่หากพิจารณาระยะเวลาดำเนินการตามที่กำหนดไว้ตามมาตรา 180 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 จะต้องใช้ระยะเวลาสูงสุดถึง 125 วัน จะทำให้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ออกใช้บังคับไม่ทันต่อความจำเป็นในการใช้จ่าย ดังนั้นจึงเห็นควรกำหนดให้การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 1 เป็นวันที่ 20 เมษายน 2548 วาระที่ 2-3 เป็นวันที่ 4 พฤษภาคม 2548 และการพิจารณาของวุฒิสภาเป็นวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติของรัฐสภา และหากดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 มกราคม 2548--จบ--