ทำเนียบรัฐบาล--11 ม.ค.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ การกำหนดค่าตอบแทนสำหรับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นค่าตอบแทนในลักษณะเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 โดยให้กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ. ร่วมกันร่างระเบียบต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำหนดคุณสมบัติของเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ป.ป.ง.) ให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับอธิบดีหรือเทียบเท่า ต้องมีความรู้ ความชำนาญทางเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง หรือกฎหมาย และโดยที่ตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. ต้องปฏิบัติหน้าที่กรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการ ป.ป.ง. และปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการธุรกรรมด้วย โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานกรรมการธุรกรรม เลขาธิการ ป.ป.ง. มีอำนาจในการสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน รวมทั้งการสั่งเพิกถอนการยึดอายัด ประกอบกับภารกิจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นภารกิจที่มีขอบเขตกว้างขวาง และเป็นหน่วยงานที่ตั้งใหม่ ซึ่งยังไม่มีความพร้อม ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. จึงมีภารกิจและหน้าที่ความรับผิดชอบสูง สมควรจะได้เสริมสร้างขวัญกำลังใจและสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า การสร้างแรงจูงใจสำหรับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ โดยเสนอขอให้กำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษให้กับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นรายเดือน ๆ ละ 30,000 บาท
กระทรวงการคลังเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเห็นว่าไม่สมควรที่จะกำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้กับผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. โดยเทียบเคียงกับเงินสมนาคุณรายเดือนที่ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ป. ได้รับ อย่างไรก็ตาม เมื่อสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสูง เนื่องจากเป็นเลขาธิการ ป.ป.ง. คนแรกซึ่งต้องเป็นผู้วางระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ส่วนหน้าที่ด้านประธานกรรมการธุรกรรมก็มีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเป็นจำเลย ซึ่งยากแก่การสรรหากรณีก็ควรกำหนดเป็นค่าตอบแทนในลักษณะเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ซึ่ง ก.พ. และกระทรวงการคลังจะได้กำหนดระเบียบร่วมกันต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ การกำหนดค่าตอบแทนสำหรับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นค่าตอบแทนในลักษณะเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 โดยให้กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ. ร่วมกันร่างระเบียบต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำหนดคุณสมบัติของเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ป.ป.ง.) ให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับอธิบดีหรือเทียบเท่า ต้องมีความรู้ ความชำนาญทางเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง หรือกฎหมาย และโดยที่ตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. ต้องปฏิบัติหน้าที่กรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการ ป.ป.ง. และปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการธุรกรรมด้วย โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานกรรมการธุรกรรม เลขาธิการ ป.ป.ง. มีอำนาจในการสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน รวมทั้งการสั่งเพิกถอนการยึดอายัด ประกอบกับภารกิจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นภารกิจที่มีขอบเขตกว้างขวาง และเป็นหน่วยงานที่ตั้งใหม่ ซึ่งยังไม่มีความพร้อม ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. จึงมีภารกิจและหน้าที่ความรับผิดชอบสูง สมควรจะได้เสริมสร้างขวัญกำลังใจและสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า การสร้างแรงจูงใจสำหรับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ โดยเสนอขอให้กำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษให้กับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นรายเดือน ๆ ละ 30,000 บาท
กระทรวงการคลังเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเห็นว่าไม่สมควรที่จะกำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้กับผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. โดยเทียบเคียงกับเงินสมนาคุณรายเดือนที่ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ป. ได้รับ อย่างไรก็ตาม เมื่อสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสูง เนื่องจากเป็นเลขาธิการ ป.ป.ง. คนแรกซึ่งต้องเป็นผู้วางระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ส่วนหน้าที่ด้านประธานกรรมการธุรกรรมก็มีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเป็นจำเลย ซึ่งยากแก่การสรรหากรณีก็ควรกำหนดเป็นค่าตอบแทนในลักษณะเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ซึ่ง ก.พ. และกระทรวงการคลังจะได้กำหนดระเบียบร่วมกันต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--