ทำเนียบรัฐบาล--4 ก.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการจำกัดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เพื่อให้การใช้จ่ายภาครัฐมีจำนวนเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐที่ให้ความสำคัญต่อการควบคุมรายจ่ายประจำอย่างเข้มงวด ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ชะลอการเพิ่มของค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ โดยนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2542 เรื่องมาตรการจำกัดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร มาบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2544 อีก 1 ปี ยกเว้นการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2543 มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) รับไปพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ เกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในภาพรวมของทั้งระบบแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติต่อไป
2. เห็นชอบให้นำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เรื่องมาตรการปรับลดอัตราการเลื่อนขั้นเงินเดือนและค่าจ้างของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2543 มาบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2544 อีก 1 ปี
3. เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหน่วยงาน ที่มีจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำจำนวนน้อย ซึ่งวงเงินการเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติรวมกันแล้วเกินวงเงินร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่จ่ายเป็นเงินเดือนและค่าจ้าง ดังเช่น กรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นค่าจ้างลูกจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 เนื่องจากสำนักงานฯ มีลูกจ้างประจำ จำนวน 2 คน หากพิจารณาเลื่อนค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติ จะต้องใช้เงินเกินวงเงินร้อยละ 5 ดังนั้น จึงเห็นชอบให้หน่วยงานที่มีจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำจำนวนน้อย พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนสำหรับข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่มีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรจะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติ โดยวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือนสูงกว่าร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่จ่ายเป็นเงินเดือนและค่าจ้างประจำได้ โดยให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการนั้น ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการจำกัดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เพื่อให้การใช้จ่ายภาครัฐมีจำนวนเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐที่ให้ความสำคัญต่อการควบคุมรายจ่ายประจำอย่างเข้มงวด ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ชะลอการเพิ่มของค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ โดยนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2542 เรื่องมาตรการจำกัดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร มาบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2544 อีก 1 ปี ยกเว้นการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2543 มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) รับไปพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ เกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในภาพรวมของทั้งระบบแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติต่อไป
2. เห็นชอบให้นำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เรื่องมาตรการปรับลดอัตราการเลื่อนขั้นเงินเดือนและค่าจ้างของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2543 มาบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2544 อีก 1 ปี
3. เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหน่วยงาน ที่มีจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำจำนวนน้อย ซึ่งวงเงินการเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติรวมกันแล้วเกินวงเงินร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่จ่ายเป็นเงินเดือนและค่าจ้าง ดังเช่น กรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นค่าจ้างลูกจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 เนื่องจากสำนักงานฯ มีลูกจ้างประจำ จำนวน 2 คน หากพิจารณาเลื่อนค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติ จะต้องใช้เงินเกินวงเงินร้อยละ 5 ดังนั้น จึงเห็นชอบให้หน่วยงานที่มีจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำจำนวนน้อย พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนสำหรับข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่มีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรจะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือค่าจ้างคนละ 1 ขั้นปกติ โดยวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือนสูงกว่าร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่จ่ายเป็นเงินเดือนและค่าจ้างประจำได้ โดยให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการนั้น ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-