วันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. ณ หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมนัดพิเศษ กรณีเกิดวิกฤตการณ์การก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลและประชาชนชาวอเมริกัน ถือว่าเป็นการกระทำที่สมควรได้รับการประณามอย่างยิ่ง ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียหาย เกิดภาวะการชะงักงัน ในการพัฒนาของโลก ในนามของรัฐบาลไทย ได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนของประเทศไทยนั้น ได้เตรียมการเพื่อจะไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบ ต่อพี่น้องประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศมากนัก โดยได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี และส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจสองส่วน และได้มีการสั่งการในด้านความมั่นคง ให้มีการรักษา ความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเพิ่มมาตรการต่าง ๆ ให้มีการรักษาความปลอดภัยของสถานทูต สถานกงสุลเป็นพิเศษ รวมทั้งให้ดูแลในเรื่องของสนามบินและเส้นทางคมนาคม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น แต่เชื่อว่า จากการประเมินสถานการณ์แล้ว จะไม่มีความเชื่อมโยงกับประเทศไทยในเรื่องของความมั่นคง และความปลอดภัยมากนัก ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษแล้ว
ในด้านของบริษัทการบินไทย ได้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องการเลือกเส้นทางการบิน เพื่อให้มีความปลอดภัย จึงไม่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงในเรื่องนี้ในส่วนของเศรษฐกิจ ได้มีการปิดตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ซึ่งหลายประเทศก็ได้สั่งปิด เพื่อประเมินสถานการณ์ เนื่องจากตลาดที่ใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางของตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้ปิดเป็นเวลา 7 วัน และเมื่อประเมินสถานการณ์เรียบร้อยแล้วก็จะเปิดทำการปกติ ส่วนเรื่องตลาดเงิน ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีอะไรที่ผิดปกติมากนัก สำหรับเรื่องน้ำมัน ภาวะการขึ้นราคาน้ำมันใน ช่วงเหตุการณ์เกิดใหม่ ๆ นั้นก็ไม่มากนัก เนื่องจากการที่เรามีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอ และได้หยุดการส่งออกน้ำมันที่แปรรูปในประเทศไทย ซึ่งจะไม่มีผลต่อพี่น้องประชาชนในระยะสั้นนี้ ยังอยู่ในฐานะที่ควบคุมได้ และจะไม่มีการขาดแคลนไฟฟ้า ฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชน ไม่ต้องตื่นตระหนก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้ความรอบคอบพินิจพิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมด และได้สั่งการและมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลทุกด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง และได้ตั้งศูนย์ติดตามเหตุการณ์ตลอดเวลา และมอบหมายความรับผิดชอบให้แต่ละฝ่าย ดังนี้
- ด้านความมั่นคงนั้นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบ
- ในเรื่องตลาดเงิน ตลาดทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับผิดชอบร่วมกับ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
- ในเรื่องของน้ำมัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และเลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเป็นผู้ที่รับผิดชอบดูแล เพื่อให้การติดตามเป็นไป ด้วยความไม่ประมาทและใกล้ชิด
- ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้รับผิดชอบ
- ด้านการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนไทยใช้ชีวิตปกติไม่ต้องตกใจว่า จะมีเหตุการณ์เกี่ยวข้อง กับประเทศไทย จนรัฐบาลไม่สามารถดูแลได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 ก.ย.44--
-สส-
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนของประเทศไทยนั้น ได้เตรียมการเพื่อจะไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบ ต่อพี่น้องประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศมากนัก โดยได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี และส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจสองส่วน และได้มีการสั่งการในด้านความมั่นคง ให้มีการรักษา ความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเพิ่มมาตรการต่าง ๆ ให้มีการรักษาความปลอดภัยของสถานทูต สถานกงสุลเป็นพิเศษ รวมทั้งให้ดูแลในเรื่องของสนามบินและเส้นทางคมนาคม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น แต่เชื่อว่า จากการประเมินสถานการณ์แล้ว จะไม่มีความเชื่อมโยงกับประเทศไทยในเรื่องของความมั่นคง และความปลอดภัยมากนัก ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษแล้ว
ในด้านของบริษัทการบินไทย ได้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องการเลือกเส้นทางการบิน เพื่อให้มีความปลอดภัย จึงไม่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงในเรื่องนี้ในส่วนของเศรษฐกิจ ได้มีการปิดตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ซึ่งหลายประเทศก็ได้สั่งปิด เพื่อประเมินสถานการณ์ เนื่องจากตลาดที่ใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางของตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้ปิดเป็นเวลา 7 วัน และเมื่อประเมินสถานการณ์เรียบร้อยแล้วก็จะเปิดทำการปกติ ส่วนเรื่องตลาดเงิน ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีอะไรที่ผิดปกติมากนัก สำหรับเรื่องน้ำมัน ภาวะการขึ้นราคาน้ำมันใน ช่วงเหตุการณ์เกิดใหม่ ๆ นั้นก็ไม่มากนัก เนื่องจากการที่เรามีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอ และได้หยุดการส่งออกน้ำมันที่แปรรูปในประเทศไทย ซึ่งจะไม่มีผลต่อพี่น้องประชาชนในระยะสั้นนี้ ยังอยู่ในฐานะที่ควบคุมได้ และจะไม่มีการขาดแคลนไฟฟ้า ฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชน ไม่ต้องตื่นตระหนก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้ความรอบคอบพินิจพิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมด และได้สั่งการและมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลทุกด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง และได้ตั้งศูนย์ติดตามเหตุการณ์ตลอดเวลา และมอบหมายความรับผิดชอบให้แต่ละฝ่าย ดังนี้
- ด้านความมั่นคงนั้นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบ
- ในเรื่องตลาดเงิน ตลาดทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับผิดชอบร่วมกับ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
- ในเรื่องของน้ำมัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และเลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเป็นผู้ที่รับผิดชอบดูแล เพื่อให้การติดตามเป็นไป ด้วยความไม่ประมาทและใกล้ชิด
- ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้รับผิดชอบ
- ด้านการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนไทยใช้ชีวิตปกติไม่ต้องตกใจว่า จะมีเหตุการณ์เกี่ยวข้อง กับประเทศไทย จนรัฐบาลไม่สามารถดูแลได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 ก.ย.44--
-สส-