คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ยธ. เสนอว่า โดยที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2560 ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในภาค 4 ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ทั้งลักษณะ อันมีผลเป็นการยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจทั่วไปของเจ้าพนักงานบังคับคดีและบัญญัติขึ้นใหม่ รวมถึงบทบัญญัติที่ให้อำนาจในการออกกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนั้น จึงควรปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2551 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติดังกล่าว อันจะทำให้การบังคับคดีของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี มีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. แก้ไขบทนิยามคำว่า “เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้มอบหมาย” เป็น “ผู้มอบหมาย” เนื่องจากเป็นการใช้คำซ้ำ และตัดความหมายที่ให้หมายความรวมถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แทนออก เนื่องจากเป็นนิยามของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งอยู่แล้ว
2. กำหนดคุณสมบัติของผู้รับมอบหมายให้ครอบคลุมถึงนิติบุคคล จากเดิมที่กำหนดให้เฉพาะบุคคลธรรมดา
3. กำหนดกิจการที่จะมอบหมายให้บุคคลปฏิบัติการแทนได้ใน 3 เรื่อง
3.1 การขายทอดตลาดทรัพย์สิน
3.2 การจัดทำบัญชีรับจ่ายเงินให้แก่ผู้มีส่วนได้
3.3 การประเมินราคาทรัพย์สิน
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการวางและคืนหลักประกันของผู้รับมอบหมาย
5. กำหนดหลักเกณฑ์ในการเพิกถอนชื่อผู้รับมอบหมาย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560--