ทำเนียบรัฐบาล--10 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542
และ 2541 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) รับข้อสังเกตของ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการเร่งรัดการพิจารณาปรับปรุงสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมกับเอกชนไปดำเนิน
การต่อไปด้วย ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
รายการ ปี 2542 (บาท) ปี 2541 (บาท)
1. งบดุลแสดงฐานะการเงิน
- มีสินทรัพย์รวม 11,976,695,422 11,680,003,229
- มีหนี้สินรวม 8,326,757,129 7,090,347,649
- มีทุนรวม 3,649,938,293 4,589,655,580
2. งบกำไร (ขาดทุน)
- กำไร (ขาดทุน) สุทธิ -1,024,525,452 540,033,095
- มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรปลายงวด 1,472,477,272 2,691,202,724
3. งบกระแสเงินสด
- มีเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานรวม 643,352,930 791,499,051
- มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร ณ วันสิ้นปี 250,745,505 236,908,053
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วย 2 ประการ คือ
1. การดำเนินการเกี่ยวกับลูกหนี้ตามสัญญาร่วมดำเนินงาน ซึ่งผู้ร่วมดำเนินงานส่วนใหญ่ได้หยุดการจ่ายเงินตามสัญญาร่วม
ดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมกับเอกชน โดยทยอยหยุดจ่ายตั้งแต่งวดบัญชีปี 2534 ถึงงวดบัญชีปี 2541 คงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน
2542 รวมจำนวน 814.51 ล้านบาท เนื่องจากรอการพิจารณาปรับปรุงสัญญาร่วมดำเนินงาน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควร
พิจารณาเรื่องการปรับปรุงสัญญาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2. รายจ่ายเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมสุราษฎร์ธานี (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2538) จำนวน 4
ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีสำหรับสำรวจรังวัด สำรวจออกแบบและจัดซื้อที่ดินจากราษฎรเพื่อก่อสร้างถนนเข้าสู่
พื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมสุราษฎร์ธานี แต่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยไม่สามารถจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวได้
การจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวจึงไม่ได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542
และ 2541 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) รับข้อสังเกตของ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการเร่งรัดการพิจารณาปรับปรุงสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมกับเอกชนไปดำเนิน
การต่อไปด้วย ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
รายการ ปี 2542 (บาท) ปี 2541 (บาท)
1. งบดุลแสดงฐานะการเงิน
- มีสินทรัพย์รวม 11,976,695,422 11,680,003,229
- มีหนี้สินรวม 8,326,757,129 7,090,347,649
- มีทุนรวม 3,649,938,293 4,589,655,580
2. งบกำไร (ขาดทุน)
- กำไร (ขาดทุน) สุทธิ -1,024,525,452 540,033,095
- มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรปลายงวด 1,472,477,272 2,691,202,724
3. งบกระแสเงินสด
- มีเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานรวม 643,352,930 791,499,051
- มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร ณ วันสิ้นปี 250,745,505 236,908,053
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วย 2 ประการ คือ
1. การดำเนินการเกี่ยวกับลูกหนี้ตามสัญญาร่วมดำเนินงาน ซึ่งผู้ร่วมดำเนินงานส่วนใหญ่ได้หยุดการจ่ายเงินตามสัญญาร่วม
ดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมกับเอกชน โดยทยอยหยุดจ่ายตั้งแต่งวดบัญชีปี 2534 ถึงงวดบัญชีปี 2541 คงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน
2542 รวมจำนวน 814.51 ล้านบาท เนื่องจากรอการพิจารณาปรับปรุงสัญญาร่วมดำเนินงาน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควร
พิจารณาเรื่องการปรับปรุงสัญญาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2. รายจ่ายเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมสุราษฎร์ธานี (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2538) จำนวน 4
ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีสำหรับสำรวจรังวัด สำรวจออกแบบและจัดซื้อที่ดินจากราษฎรเพื่อก่อสร้างถนนเข้าสู่
พื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมสุราษฎร์ธานี แต่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยไม่สามารถจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวได้
การจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวจึงไม่ได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ต.ค. 2543--
-สส-