ทำเนียบรัฐบาล--4 เม.ย.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สิทธิพิเศษกรมอาชีวศึกษาในการขายหรือรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อจากหน่วยงาน ราชการต่าง ๆ ได้เป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ดังนี้
1. งานที่รับทำต้องอยู่ในขอบเขตของการเรียนการสอนเท่านั้น และต้องไม่เป็นการรับงานในเชิงพาณิชย์
2. ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของวิชาชีพที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ในเรื่องนั้น ๆ ได้กำหนดไว้ เช่น การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพออกแบบหรือควบคุมงาน เป็นต้น
3. ในการทำสัญญาซื้อหรือจ้าง ย่อมต้องกำหนดค่าปรับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น ในการรับงานต้องคำนึงถึงความสามารถในการทำงาน เพื่อมิให้เกิดค่าปรับจากการไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งจะเป็นภาระแก่งบประมาณของสถานศึกษา
ทั้งนี้ เนื่องจากมีสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจำนวนมาก และมีศักยภาพเพียงพอในการผลิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน/นักศึกษาอย่างมาก ทั้งในด้านสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน/นักศึกษาระหว่างเรียนพัฒนาการเรียนการสอนวิชาชีพ และใช้บุคลากรร่วมกันเพื่อเป็นการประสานการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการสร้างงานสร้างรายได้ของนักเรียน/นักศึกษา และการพัฒนาการเรียนการสอน ดังกล่าวข้างต้น เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง 1) กรมอาชีวศึกษากับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และ 2) ระหว่างกรมอาชีวศึกษากับกรมสามัญศึกษา ซึ่งโครงการทั้งสองมุ่งพัฒนาใน 3 ด้าน ดังต่อไปนี้
1. การสร้างงานสร้างรายได้ของนักเรียน/นักศึกษา ทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมมือกัน โดยต่างฝ่ายต่างสนับสนุนการว่าจ้าง หรือจัดซื้อสินค้าซึ่งกันและกัน ได้แก่
1) การรับจ้างผลิตสินค้าตามความต้องการของสถานศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน ครุภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นต้น
2) การซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยนักเรียน/นักศึกษา ในสถานศึกษาของทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมกัน เช่น ผลิตผลทางการเกษตร เป็นต้น
3) การรับจ้างงาน การซ่อมแซมครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
2. การพัฒนาการเรียนการสอน โดยทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมมือกันส่งเสริมการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านวิชาชีพ และวิชาวิสามัญแก่นักเรียน/นักศึกษา
3. การส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรในการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพและวิชาสามัญ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 เมษายน 2543--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สิทธิพิเศษกรมอาชีวศึกษาในการขายหรือรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อจากหน่วยงาน ราชการต่าง ๆ ได้เป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ดังนี้
1. งานที่รับทำต้องอยู่ในขอบเขตของการเรียนการสอนเท่านั้น และต้องไม่เป็นการรับงานในเชิงพาณิชย์
2. ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของวิชาชีพที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ในเรื่องนั้น ๆ ได้กำหนดไว้ เช่น การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพออกแบบหรือควบคุมงาน เป็นต้น
3. ในการทำสัญญาซื้อหรือจ้าง ย่อมต้องกำหนดค่าปรับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น ในการรับงานต้องคำนึงถึงความสามารถในการทำงาน เพื่อมิให้เกิดค่าปรับจากการไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งจะเป็นภาระแก่งบประมาณของสถานศึกษา
ทั้งนี้ เนื่องจากมีสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจำนวนมาก และมีศักยภาพเพียงพอในการผลิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน/นักศึกษาอย่างมาก ทั้งในด้านสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน/นักศึกษาระหว่างเรียนพัฒนาการเรียนการสอนวิชาชีพ และใช้บุคลากรร่วมกันเพื่อเป็นการประสานการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการสร้างงานสร้างรายได้ของนักเรียน/นักศึกษา และการพัฒนาการเรียนการสอน ดังกล่าวข้างต้น เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง 1) กรมอาชีวศึกษากับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และ 2) ระหว่างกรมอาชีวศึกษากับกรมสามัญศึกษา ซึ่งโครงการทั้งสองมุ่งพัฒนาใน 3 ด้าน ดังต่อไปนี้
1. การสร้างงานสร้างรายได้ของนักเรียน/นักศึกษา ทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมมือกัน โดยต่างฝ่ายต่างสนับสนุนการว่าจ้าง หรือจัดซื้อสินค้าซึ่งกันและกัน ได้แก่
1) การรับจ้างผลิตสินค้าตามความต้องการของสถานศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน ครุภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นต้น
2) การซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยนักเรียน/นักศึกษา ในสถานศึกษาของทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมกัน เช่น ผลิตผลทางการเกษตร เป็นต้น
3) การรับจ้างงาน การซ่อมแซมครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
2. การพัฒนาการเรียนการสอน โดยทั้งสองฝ่ายที่ตกลงร่วมมือกันส่งเสริมการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านวิชาชีพ และวิชาวิสามัญแก่นักเรียน/นักศึกษา
3. การส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรในการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพและวิชาสามัญ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 เมษายน 2543--