คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับหลักประกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
กค. เสนอว่า ตามที่ได้มีกฎกระทรวงกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับหลักประกัน พ.ศ. 2559 กำหนดให้นิติบุคคลเฉพาะกิจที่มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ทรัสตีในนามทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนรวม หรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริง เป็นผู้รับหลักประกัน นั้น กค. พิจารณาแล้ว เห็นว่า ยังมีบุคคลอื่นที่อาจมีการดำเนินการซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับหลักประกันทางธุรกิจ และมีศักยภาพที่สามารถเป็นผู้รับหลักประกันตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจฯ ได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการประกอบการให้สินเชื่อ และเพิ่มแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้มากขึ้นอันจะเป็นประโยชน์แก่การประกอบธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ สมควรกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ นิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ และให้เช่าแบบลีซซิ่ง และนิติบุคคล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้สินเชื่อเป็นทางการค้าปกติ เป็นผู้รับหลักประกัน
การดำเนินการในเรื่องนี้คาดว่าจะมีผลต่อผู้ประกอบธุรกิจโดยผู้ประกอบธุรกิจจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และสามารถนำทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาวางเป็นหลักประกันได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าว อันจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายสินเชื่อการลงทุน และช่วยเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ
กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ นิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีซซิ่ง และนิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้สินเชื่อเป็นทางการค้าปกติ เป็นผู้รับหลักประกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560--