คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงศึกษาธิการเสนอว่า เนื่องจากมาตรา 103 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่าหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามผลการสอบสวนพิจารณาให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. และมาตรา 119 กำหนดว่าภายใต้บังคับหมวด 7 และหมวด 9 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในกรณีอื่น ตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. จึงได้เสนอร่างกฎ ก.ค.ศ. ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ดังนี้
1. กำหนดตัวบุคคลผู้มีอำนาจสั่งพักราชการ หรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน (ร่างข้อ 2)
2. กำหนดหลักเกณฑ์การสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการ ระยะเวลาให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา (ร่างข้อ 6 ถึงร่างข้อ 9)
3. กำหนดหลักเกณฑ์การสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการ ระยะเวลาให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา (ร่างข้อ 10 ถึงร่างข้อ 13)
4. กำหนดระยะเวลาการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการ มิให้สั่งย้อนหลังไปก่อนวันออกคำสั่ง (ร่างข้อ 14 ถึงร่างข้อ 15)
5. กำหนดให้กรณีการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าออกจากราชการไว้ก่อน ให้ดำเนินการนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบ (ร่างข้อ 16)
6. กำหนดให้คำสั่งพักราชการ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือคำสั่งให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือกลับเข้ารับราชการ ให้ทำเป็นหนังสือระบุตำแหน่งและวิทยฐานะของผู้ถูกสั่งพักราชการผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือผู้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือกลับเข้ารับราชการ ตลอดจนกรณีและเหตุที่สั่งดังกล่าว (ร่างข้อ 17)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--
กระทรวงศึกษาธิการเสนอว่า เนื่องจากมาตรา 103 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่าหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามผลการสอบสวนพิจารณาให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. และมาตรา 119 กำหนดว่าภายใต้บังคับหมวด 7 และหมวด 9 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในกรณีอื่น ตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. จึงได้เสนอร่างกฎ ก.ค.ศ. ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ดังนี้
1. กำหนดตัวบุคคลผู้มีอำนาจสั่งพักราชการ หรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน (ร่างข้อ 2)
2. กำหนดหลักเกณฑ์การสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการ ระยะเวลาให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา (ร่างข้อ 6 ถึงร่างข้อ 9)
3. กำหนดหลักเกณฑ์การสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระยะเวลาให้พักราชการ ระยะเวลาให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา (ร่างข้อ 10 ถึงร่างข้อ 13)
4. กำหนดระยะเวลาการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการ มิให้สั่งย้อนหลังไปก่อนวันออกคำสั่ง (ร่างข้อ 14 ถึงร่างข้อ 15)
5. กำหนดให้กรณีการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าออกจากราชการไว้ก่อน ให้ดำเนินการนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบ (ร่างข้อ 16)
6. กำหนดให้คำสั่งพักราชการ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือคำสั่งให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือกลับเข้ารับราชการ ให้ทำเป็นหนังสือระบุตำแหน่งและวิทยฐานะของผู้ถูกสั่งพักราชการผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือผู้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือกลับเข้ารับราชการ ตลอดจนกรณีและเหตุที่สั่งดังกล่าว (ร่างข้อ 17)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--