คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 3 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศ มีหนังสือด่วนที่สุดที่ กต 1205 / 1051 ลงวันที่ 26 กันยายน 2550 ถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเรื่องการประชุม Ministerial Meeting on Managing Water Resources in Southeast Asia ครั้งที่ 3 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2550 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเลเซียมีหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้
1. ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอแนะจากการประชุม Southeast Asia Water Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22 — 26 ตุลาคม 2550 เป็นการประชุมผู้มีส่วนได้เสียในการจัดการทรัพยากรน้ำของภูมิภาค มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น ประมาณ 400 คน จาก 18 ประเทศ โดยข้อเสนอแนะหลักคือ การเร่งสร้างหุ้นส่วนเครือข่ายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือขององค์กรบริหารจัดการน้ำภาครัฐและภาคส่วนอื่น การเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในเมืองและพื้นที่ชุมชน และการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมประเทศภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (รวม 49 ประเทศ) โดยจัดตั้ง Council of Ministers on Water Resources for Asia-Pacific
2. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะผู้แทนไทยระดับรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดเห็นต่อที่ประชุมว่าปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งผลสำเร็จต่อการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะข้างต้น คือ การสนับสนุนด้านการเงินที่ควรจะมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงควรมีการยกเวทีนี้ไปสู่เวทีซึ่งมีความต่อเนื่องชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีบางกิจกรรมที่แต่ละประเทศสามารถนำไปดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน เช่น การบรรจุเรื่องน้ำไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน เป็นต้น ซึ่งหากมีการดำเนินการก็จะช่วยให้มีการนำข้อเสนอแนะไปดำเนินงานได้มากขึ้น ที่ประชุมแสดงความเห็นด้วยและขอให้ฝ่ายเลขานุการ (ประเทศมาเลเซีย) รับไปดำเนินการต่อไป
3. ที่ประชุมได้อภิปรายเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการนำผลการประชุมไปสู่การปฏิบัติ เช่น การนำผลการประชุมนำเสนอในการประชุมผู้นำอาเซียน เป็นต้น นอกจากนั้น เห็นว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เพื่อเข้าร่วมการประชุม Asia — Pacific Water Summit ระหว่างวันที่ 3 — 4 ธันวาคม 2550 ณ ประเทศญี่ปุ่น
4. ที่ประชุมได้ให้การรับรองแถลงการณ์ปุตราจายา สรุปประเด็นสำคัญได้ ดังนี้
4.1 ในการประชุมดังกล่าว มีรัฐมนตรีและ/หรือ ผู้แทนรัฐมนตรีจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำเข้าร่วมประชุม จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
4.2 ที่ประชุมยอมรับพันธกิจที่มีตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ในแถลงการณ์เชียงใหม่ กล่าวคือ จะรับรองแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน และจากแถลงการณ์บาหลี โดยยืนยันจะดำเนินการให้มีนโยบายและโครงการที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสานตามแผนปฏิบัติการรวม 5 ด้าน ได้แก่
1) การบริหารทรัพยากรน้ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
2) การดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสานทั้งในระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น/ภูมิภาค
3) การจัดการน้ำและสุขาภิบาลสำหรับทุกคน
4) การบริหารจัดการน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
5) ความมั่นคงด้านน้ำ
4.3 รัฐมนตรี ตระหนักถึงความท้าทายในการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจำเป็นจะต้องตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารจัดการน้ำ โดยเน้นการดำเนินงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การจัดโครงสร้างสถาบันที่เหมาะสม การกำหนดกรอบกฎหมาย เพื่อรองรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน และการเสริมสร้างศักยภาพให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการใช้ความเข้มแข็งในกรอบอาเซียนเพื่อเป็นกลไกในการผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์
4.4 รัฐมนตรี รับว่า จะดำเนินการให้มีการผนึกกิจกรรมทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนากรอบการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน สร้างความเข้มแข็งด้านโครงสร้างสถาบันและกฎหมาย สร้างเสริมศักยภาพแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยเน้นการบริหารจัดการที่ดี
4.5 รัฐมนตรี รับรองข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุม Southeast Asia Water Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งมีหัวข้อหลัก 4 หัวข้อ ได้แก่
1) การเป็นหุ้นส่วนเครือข่ายในการดำเนินงาน
2) การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เมือง
3) การติดตามตรวจสอบการลงทุนด้านน้ำและผลการดำเนินงาน
4) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืนและการบริหารจัดการลุ่มน้ำ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศ มีหนังสือด่วนที่สุดที่ กต 1205 / 1051 ลงวันที่ 26 กันยายน 2550 ถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเรื่องการประชุม Ministerial Meeting on Managing Water Resources in Southeast Asia ครั้งที่ 3 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2550 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเลเซียมีหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้
1. ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอแนะจากการประชุม Southeast Asia Water Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22 — 26 ตุลาคม 2550 เป็นการประชุมผู้มีส่วนได้เสียในการจัดการทรัพยากรน้ำของภูมิภาค มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น ประมาณ 400 คน จาก 18 ประเทศ โดยข้อเสนอแนะหลักคือ การเร่งสร้างหุ้นส่วนเครือข่ายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือขององค์กรบริหารจัดการน้ำภาครัฐและภาคส่วนอื่น การเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในเมืองและพื้นที่ชุมชน และการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมประเทศภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (รวม 49 ประเทศ) โดยจัดตั้ง Council of Ministers on Water Resources for Asia-Pacific
2. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะผู้แทนไทยระดับรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดเห็นต่อที่ประชุมว่าปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งผลสำเร็จต่อการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะข้างต้น คือ การสนับสนุนด้านการเงินที่ควรจะมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงควรมีการยกเวทีนี้ไปสู่เวทีซึ่งมีความต่อเนื่องชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีบางกิจกรรมที่แต่ละประเทศสามารถนำไปดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน เช่น การบรรจุเรื่องน้ำไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน เป็นต้น ซึ่งหากมีการดำเนินการก็จะช่วยให้มีการนำข้อเสนอแนะไปดำเนินงานได้มากขึ้น ที่ประชุมแสดงความเห็นด้วยและขอให้ฝ่ายเลขานุการ (ประเทศมาเลเซีย) รับไปดำเนินการต่อไป
3. ที่ประชุมได้อภิปรายเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการนำผลการประชุมไปสู่การปฏิบัติ เช่น การนำผลการประชุมนำเสนอในการประชุมผู้นำอาเซียน เป็นต้น นอกจากนั้น เห็นว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เพื่อเข้าร่วมการประชุม Asia — Pacific Water Summit ระหว่างวันที่ 3 — 4 ธันวาคม 2550 ณ ประเทศญี่ปุ่น
4. ที่ประชุมได้ให้การรับรองแถลงการณ์ปุตราจายา สรุปประเด็นสำคัญได้ ดังนี้
4.1 ในการประชุมดังกล่าว มีรัฐมนตรีและ/หรือ ผู้แทนรัฐมนตรีจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำเข้าร่วมประชุม จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
4.2 ที่ประชุมยอมรับพันธกิจที่มีตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ในแถลงการณ์เชียงใหม่ กล่าวคือ จะรับรองแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน และจากแถลงการณ์บาหลี โดยยืนยันจะดำเนินการให้มีนโยบายและโครงการที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสานตามแผนปฏิบัติการรวม 5 ด้าน ได้แก่
1) การบริหารทรัพยากรน้ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
2) การดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสานทั้งในระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น/ภูมิภาค
3) การจัดการน้ำและสุขาภิบาลสำหรับทุกคน
4) การบริหารจัดการน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
5) ความมั่นคงด้านน้ำ
4.3 รัฐมนตรี ตระหนักถึงความท้าทายในการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจำเป็นจะต้องตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารจัดการน้ำ โดยเน้นการดำเนินงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การจัดโครงสร้างสถาบันที่เหมาะสม การกำหนดกรอบกฎหมาย เพื่อรองรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน และการเสริมสร้างศักยภาพให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการใช้ความเข้มแข็งในกรอบอาเซียนเพื่อเป็นกลไกในการผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์
4.4 รัฐมนตรี รับว่า จะดำเนินการให้มีการผนึกกิจกรรมทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนากรอบการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน สร้างความเข้มแข็งด้านโครงสร้างสถาบันและกฎหมาย สร้างเสริมศักยภาพแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยเน้นการบริหารจัดการที่ดี
4.5 รัฐมนตรี รับรองข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุม Southeast Asia Water Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งมีหัวข้อหลัก 4 หัวข้อ ได้แก่
1) การเป็นหุ้นส่วนเครือข่ายในการดำเนินงาน
2) การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เมือง
3) การติดตามตรวจสอบการลงทุนด้านน้ำและผลการดำเนินงาน
4) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืนและการบริหารจัดการลุ่มน้ำ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--