คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ที่อนุมัติในหลักการให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 คืนให้กระทรวงศึกษาธิการทั้งหมดทุกตำแหน่งพร้อมวงเงินงบประมาณของอัตราที่เกษียณดังกล่าว ส่วนอัตราที่เกษียณอายุตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 นั้น ให้รอผลการศึกษาตามโครงการกำหนดยุทธศาสตร์กำหนดกำลังคนภาครัฐ : กรณีศึกษาข้าราชการครูของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และผลการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 2 ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาด้วย
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีภาระหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ และการศึกษาเพื่อคนพิการ มีโรงเรียนกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ ขณะนี้มีความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและทั่วถึง เนื่องจากขาดอัตรากำลังครูจำนวนมาก (ในปีการศึกษา 2549 ขาดครูจำนวน 72,162 อัตรา) ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2543-2549) ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ ยุบเลิกอัตราข้าราชการครูฯ ทั้งกรณีเกษียณอายุราชการปกติและเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดไปแล้ว จำนวน 74,784 อัตรา ได้รับจัดสรรคืนจำนวน 20,836 อัตรา ซึ่งไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครูในสถานศึกษาเนื่องจากขาดแคลนสะสมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบัน
ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2554) หากยังต้องดำเนินการตามมาตรการปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ สพฐ. จะสูญเสียอัตรากำลังครูจากผลการเกษียณอายุราชการอีกจำนวนมาก รวม 33,819 อัตรา จำแนกเป็นรายปีได้ ดังนี้ พ.ศ. 2550 จำนวน 4,266 อัตรา พ.ศ. 2551 จำนวน 5,192 อัตรา พ.ศ. 2552 จำนวน 6,558 อัตรา พ.ศ. 2553 จำนวน 7,688 อัตรา พ.ศ. 2554 จำนวน 10,115 อัตรา
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีภาระหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ และการศึกษาเพื่อคนพิการ มีโรงเรียนกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ ขณะนี้มีความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและทั่วถึง เนื่องจากขาดอัตรากำลังครูจำนวนมาก (ในปีการศึกษา 2549 ขาดครูจำนวน 72,162 อัตรา) ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2543-2549) ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ ยุบเลิกอัตราข้าราชการครูฯ ทั้งกรณีเกษียณอายุราชการปกติและเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดไปแล้ว จำนวน 74,784 อัตรา ได้รับจัดสรรคืนจำนวน 20,836 อัตรา ซึ่งไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครูในสถานศึกษาเนื่องจากขาดแคลนสะสมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบัน
ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2554) หากยังต้องดำเนินการตามมาตรการปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ สพฐ. จะสูญเสียอัตรากำลังครูจากผลการเกษียณอายุราชการอีกจำนวนมาก รวม 33,819 อัตรา จำแนกเป็นรายปีได้ ดังนี้ พ.ศ. 2550 จำนวน 4,266 อัตรา พ.ศ. 2551 จำนวน 5,192 อัตรา พ.ศ. 2552 จำนวน 6,558 อัตรา พ.ศ. 2553 จำนวน 7,688 อัตรา พ.ศ. 2554 จำนวน 10,115 อัตรา
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550--จบ--