คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2561 ครบกำหนดวันที่ 11 มกราคม 2564 โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โดยให้ พม. (การเคหะแห่งชาติ) รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 เห็นชอบให้ กคช. ต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MOR ของธนาคารออมสิน ลบร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 11 มีนาคม 2561 กคช. จึงได้ดำเนินการประสานกับธนาคารออมสิน เพื่อขอต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยเป็นการขอวงเงินไว้สำหรับในกรณีที่ กคช. ขาดเงินทุนหมุนเวียนในช่วงใดช่วงหนึ่งก็จะขอเบิกจากวงเงินเบิกเกินบัญชีมาใช้ในการหมุนเวียนเพื่อมิให้การดำเนินงานต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงักลง และจะใช้คืนธนาคารทันทีที่มีสภาพคล่อง
2. คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบการขอต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีแล้วในการประชุม ครั้งที่ 7/2560 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 และ กคช. ได้แจ้งให้ กค. ทราบแล้ว
3. ธนาคารออมสินได้เห็นชอบให้ กคช. ต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MOR ของธนาคารออมสิน ลบร้อยละ 1.50 ต่อปี ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2561 ครบกำหนดวันที่ 11 มีนาคม 2564 โดยมี กค. ค้ำประกัน
4. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2561 ตามที่ กค. เสนอ ซึ่งรวมถึงในส่วนของ กคช. ที่ได้รับอนุมัติกรอบการกู้เงิน จำนวน 9,800 ล้านบาท และได้รับอนุมัติการกู้เงินเพื่อลงทุนในโครงการและปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 9,300 ล้านบาท คงเหลือการกู้เงินเพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่น ๆ จำนวน 500 ล้านบาท ที่ กคช. ต้องนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน ตามพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2537 มาตรา 31 (1) ที่บัญญัติให้ กคช. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะดำเนินการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนเกินครั้งละ 50 ล้านบาทได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มกราคม 2561--