ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียกับสถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์ว่าด้วยการเป็นประเทศเจ้าบ้านและการให้เอกสิทธิ์

ข่าวการเมือง Tuesday January 9, 2018 19:06 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียกับสถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์ว่าด้วยการเป็นประเทศเจ้าบ้านและการให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันแก่สถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียกับสถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์ว่าด้วยการเป็นเจ้าบ้านและการให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันแก่สถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์

2. ให้ผู้แทนของสถาบันอาเซียนฯ ซึ่งได้รับการมอบหมายจากคณะมนตรีของสถาบันฯ เป็นผู้ลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียกับสถาบันอาเซียนฯ

สาระสำคัญของความตกลงฯ จะกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสถาบันอาเซียนฯ และอินโดนีเซียในฐานะประเทศเจ้าบ้าน ดังนี้

1. สถาบันอาเซียนฯ จะมีสถานะทางกฎหมายและจะต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบของอินโดนีเซีย โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น

1.1 การดูแลรักษาสถานที่ทำการที่ประเทศเจ้าภาพจัดหาให้

1.2 การชำระค่าใช้จ่ายการให้บริการด้านสาธารณูปโภคต่างๆ

1.3 การซ่อมแซมอุปกรณ์ สิ่งของเครื่องใช้สำนักงาน

1.4 การประกันภัยสำนักงาน การชำระภาษีที่เกี่ยวข้อง

1.5 การจัดการใบอนุญาตทำงานสำหรับบุคลากร และ

1.6 การบริหารจัดการกองทุนและงบประมาณและบุคลากรของสำนักงาน

2. อินโดนีเซีย ในฐานะประเทศเจ้าบ้านจะต้องให้สถาบันอาเซียนฯ มีสถานะเท่าเทียมกับหน่วยงานสำคัญของรัฐของอินโดนีเซีย โดยจะต้องดำเนินการ ดังนี้

2.1 อำนวยความสะดวกในการรับคำขอตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้า การเดินทางผ่าน และการเดินทางออกจากประเทศเจ้าบ้านสำหรับบุคคลต่าง ๆ

2.2 ยกเว้นและลดหย่อนอากรศุลกากรและภาษีตามกฎหมายและกฎระเบียบภาษีอากรของประเทศเจ้าบ้าน

2.3 จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการดำเนินงานของสถาบันอาเซียนฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

2.4 รักษาความปลอดภัยตามแนวปฏิบัติเดียวกันกับที่ดำเนินการกับสำนักงานผู้แทนทางการทูตหรือองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ

2.5 ให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันสำหรับผู้อำนวยการบริหารและเจ้าหน้าที่ของสถาบันอาเซียนฯ ตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่

2.6 ยกเว้นภาษีสำหรับสถาบันอาเซียนฯ และสังหาริมทรัพย์ของสถาบันอาเซียนฯ

2.7 ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างภาคีทั้งสองฝ่ายอันเนื่องมาจากการตีความหรือการนำความตกลงนี้มาใช้ จะต้องระงับอย่างฉันมิตรโดยผ่านการหารือหรือการเจรจา

2.8 ความตกลงฯ อาจมีการแก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษร โดยได้รับความเห็นชอบจากภาคี ทั้งสองฝ่าย โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ประเทศเจ้าบ้านแจ้งการเสร็จสิ้นการดำเนินการตามกระบวนการภายใน

2.9 ความตกลงฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ประเทศเจ้าบ้านได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อผู้อำนวยการบริหารถึงการเสร็จสิ้นของการดำเนินการตามกระบวนการภายในสำหรับการบังคับใช้ความตกลงนี้ และจะสิ้นสุดหลักจากได้รับการแจ้งจากภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่าประสงค์จะยุติความตกลงนี้ต่ออีกฝ่ายหนึ่งเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นระยะเวลา 6 เดือน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 มกราคม 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ