ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

ข่าวการเมือง Tuesday January 23, 2018 15:52 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา

ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้

1. แก้ไขบทนิยามคำว่า “คณะกรรมการบริหาร” และคำว่า “ผู้อำนวยการ” เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย

2. แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของสำนักงาน โดยการให้บริการและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ ทั้งในรูปแบบของอุทยานการเรียนรู้ และพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เพื่อเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เอื้อต่อการเข้าถึงและการใช้บริการด้านการเรียนรู้ รวมทั้งเป็นพื้นที่ในการค้นคว้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างแรงบันดาลใจ

3. แก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการต้องประกอบด้วยกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งต้องไม่เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เว้นแต่เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และกรรมการจะดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์การมหาชนเกินกว่าสามแห่งไม่ได้

4. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการโดยให้มีอำนาจในการออกระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด หรือประกาศเกี่ยวกับสำนักงานในเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตั้ง และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ การกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของสำนักงาน และเครื่องหมายของสำนักงาน รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

5. กำหนดให้ดำเนินการแต่งตั้งผู้อำนวยการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่มีเหตุต้องแต่งตั้งผู้อำนวยการ และหากมีความจำเป็นให้ขยายได้ไม่เกิน 60 วัน หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวให้รายงานผลให้คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

6. แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้อำนวยการ โดยผู้อำนวยการต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง ไม่เป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การมหาชนอื่น ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำ หรือในกิจการที่เป็นการแข่งขันกับกิจการของสำนักงานไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อมและไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ปฏิบัติงานขององค์การมหาชนอื่น

7. กำหนดให้การแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง และลงโทษทางวินัย ผู้ตรวจสอบภายในนั้น ให้ผู้อำนวยการและคณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาร่วมกันแล้วเสนอให้คณะกรรมการให้ความเห็นชอบก่อนจึงดำเนินการได้

8. กำหนดบทเฉพาะกาล โดยกำหนดให้ประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีอยู่ในวันก่อนที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เป็นประธานกรรมการและกรรมการของสำนักงานตามพระราชกฤษฎีกานี้และยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปตามวาระที่มีอยู่เดิมในวันก่อนที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 มกราคม 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ