คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
จากการที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 115/2548 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2548 แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) เป็นประธานนั้น คณะกรรมการฯ ได้ประชุมครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 และมีมติให้ดำเนินการในเรื่องที่สำคัญ รวม 10 เรื่อง ดังนี้
1. เรื่องการแต่งตั้งอนุกรรมการ 2 คณะ
1.1 อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมาย มอบหมายรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจเอกเพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์) เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลด้านการปราบปราม การดำเนินคดี และจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน และให้มีการประชุมอนุกรรมการเพื่อให้มีผลการดำเนินงานรายงานต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
1.2 คณะอนุกรรมการจัดทำฐานข้อมูลระดับชาติ มอบหมายปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน และให้พิจารณากำหนดองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ ภารกิจของคณะอนุกรรมการ เสนอต่อประธานคณะกรรมการต่อไป
2. เรื่องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการค้ามนุษย์ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานด้านการค้ามนุษย์ในระดับ จังหวัด ในส่วนกลางและในต่างประเทศ
3. เรื่องรายงานการศึกษา เรื่องการค้ามนุษย์ มอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทีมศึกษาเรื่องการค้ามนุษย์ โดยศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
4. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. .... มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาประเด็น การเพิ่มเติมเรื่องกองทุนไว้ในร่างพระราชบัญญัติ โดยนำเงินที่ยึดจากการค้ามนุษย์ เงินสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ องค์กรเอกชน สมทบเข้ากองทุนดังกล่าว เพื่อใช้ประโยชน์ในการคุ้มครอง ฟื้นฟูเหยื่อ
5. เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
6. เรื่อง การขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
7. เรื่อง การช่วยเหลือเหยื่อที่มิได้มีสัญชาติไทยในต่างประเทศ
8. เรื่อง เงินทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกกระทำจากกระบวนการค้ามนุษย์และปัญหาสังคมอื่น ๆ (500 ล้านบาท) มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ติดตามเงินทุนเริ่มต้น 100 ล้านบาท จากคณะกรรมการโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการออกสลากพิเศษกระทรวงการคลังต่อไป และให้นำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระสำคัญที่จะพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปด้วย
9. เรื่อง ร่างข้อตกลงความร่วมมือในการให้ความรู้แก่เยาวสตรีเพื่อป้องกันการถูกล่อลวง เพื่อเป็นแนวทางขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศ และให้ลงนามร่วมกันโดยเร็วเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
10. เรื่อง ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็กของคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิง ข้อเสนอดังกล่าวได้ปรากฏอยู่ในเรื่องต่าง ๆ ที่คณะกรรมการฯ มีมติไปแล้ว ดังนี้
1. ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ได้ตั้งหน่วยงานระดับกองบังคับการ ขึ้นกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว และการที่คณะกรรมการมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายภายใต้คณะกรรมการชุดนี้ จะทำให้ ตช. เร่งรัดการปราบปราม และการดำเนินคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. มติเรื่อง การจัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในระดับจังหวัด จะช่วยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบูรณาการงานของทุกหน่วยงานในจังหวัดได้
3. ให้นำเรื่องการคุ้มครองพยานไปพิจารณาดำเนินการภายใต้คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายงบประมาณโครงการวิจัย สามารถขอรับการสนับสนุนได้จากเงินทุน 100 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 มิถุนายน 2548--จบ--
จากการที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 115/2548 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2548 แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) เป็นประธานนั้น คณะกรรมการฯ ได้ประชุมครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 และมีมติให้ดำเนินการในเรื่องที่สำคัญ รวม 10 เรื่อง ดังนี้
1. เรื่องการแต่งตั้งอนุกรรมการ 2 คณะ
1.1 อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมาย มอบหมายรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจเอกเพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์) เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลด้านการปราบปราม การดำเนินคดี และจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน และให้มีการประชุมอนุกรรมการเพื่อให้มีผลการดำเนินงานรายงานต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
1.2 คณะอนุกรรมการจัดทำฐานข้อมูลระดับชาติ มอบหมายปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน และให้พิจารณากำหนดองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ ภารกิจของคณะอนุกรรมการ เสนอต่อประธานคณะกรรมการต่อไป
2. เรื่องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการค้ามนุษย์ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานด้านการค้ามนุษย์ในระดับ จังหวัด ในส่วนกลางและในต่างประเทศ
3. เรื่องรายงานการศึกษา เรื่องการค้ามนุษย์ มอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทีมศึกษาเรื่องการค้ามนุษย์ โดยศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
4. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. .... มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาประเด็น การเพิ่มเติมเรื่องกองทุนไว้ในร่างพระราชบัญญัติ โดยนำเงินที่ยึดจากการค้ามนุษย์ เงินสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ องค์กรเอกชน สมทบเข้ากองทุนดังกล่าว เพื่อใช้ประโยชน์ในการคุ้มครอง ฟื้นฟูเหยื่อ
5. เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
6. เรื่อง การขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
7. เรื่อง การช่วยเหลือเหยื่อที่มิได้มีสัญชาติไทยในต่างประเทศ
8. เรื่อง เงินทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกกระทำจากกระบวนการค้ามนุษย์และปัญหาสังคมอื่น ๆ (500 ล้านบาท) มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ติดตามเงินทุนเริ่มต้น 100 ล้านบาท จากคณะกรรมการโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการออกสลากพิเศษกระทรวงการคลังต่อไป และให้นำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระสำคัญที่จะพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปด้วย
9. เรื่อง ร่างข้อตกลงความร่วมมือในการให้ความรู้แก่เยาวสตรีเพื่อป้องกันการถูกล่อลวง เพื่อเป็นแนวทางขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศ และให้ลงนามร่วมกันโดยเร็วเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
10. เรื่อง ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็กของคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิง ข้อเสนอดังกล่าวได้ปรากฏอยู่ในเรื่องต่าง ๆ ที่คณะกรรมการฯ มีมติไปแล้ว ดังนี้
1. ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ได้ตั้งหน่วยงานระดับกองบังคับการ ขึ้นกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว และการที่คณะกรรมการมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายภายใต้คณะกรรมการชุดนี้ จะทำให้ ตช. เร่งรัดการปราบปราม และการดำเนินคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. มติเรื่อง การจัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในระดับจังหวัด จะช่วยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบูรณาการงานของทุกหน่วยงานในจังหวัดได้
3. ให้นำเรื่องการคุ้มครองพยานไปพิจารณาดำเนินการภายใต้คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายงบประมาณโครงการวิจัย สามารถขอรับการสนับสนุนได้จากเงินทุน 100 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 มิถุนายน 2548--จบ--