1. เห็นชอบต่อประเด็นหารือของไทยและเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (The Greater Mekong Subregion Economic Coordination : GMS) ครั้งที่ 6 ได้แก่
(1) ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 6
(2) ร่างแผนปฏิบัติการฮานอยปี 2561-2565
(3) กรอบการลงทุนในภูมิภาค ปี 2565
ซึ่งจะได้มีการรับรองโดยไม่มีการลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงาน GMS ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยให้ สศช. สามารถปรับปรุงถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมฯ ได้ในกรณีที่มิใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบอีก
2. ให้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับผู้นำประเทศของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 6 ร่างแผนปฏิบัติการฮานอย ปี 2561-2565 และกรอบการลงทุนในภูมิภาค ปี 2565
สศช. รายงานว่า กำหนดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงาน GMS ครั้งที่ 6 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามร่วมกับธนาคาร ADB จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงาน GMS ครั้งที่ 6 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2561โดยประเด็นหารือและข้อเสนอของประเทศไทย สศช. ได้กำหนดท่าทีของไทยในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำแผนงาน GMS ครั้งที่ 6 เพื่อแสดงถึงการผลักดัน การเน้นย้ำ และการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน GMS ครั้งที่ 6 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1. กรอบการลงทุนของภูมิภาค ปี 2565 (Regional Investment Framework : RIF2022)
2. โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง
3. นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
4. การซื้อขายไฟฟ้าในอนุภูมิภาค GMS
5. การส่งเสริมการลงทุนให้กับภาคเอกชนในภูมิภาค และ
6. การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการภัยพิบัติ
ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 6 (Joint Summit Declaration: JSD) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความชื่นชมการดำเนินงานตามแผนงาน GMS ในช่วงระยะเวลา 25 ปี ที่ผ่านมา และแสดงถึงแนวทางการดำเนินงานของแผนงาน GMS ในอนาคต
ร่างแผนปฏิบัติการฮานอยปี 2561-2565 (Hanoi Action Plan 2018-2022) GMSได้ดำเนินการประเมินผลระยะกลางรอบของกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2555-2560) และนำผลการประเมินดังกล่าวมาจัดทำเป็นร่างแผนปฏิบัติการฮานอยเพื่อปรับปรุงให้การดำเนินการของ GMS ยังคงมีประสิทธิภาพสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศสมาชิกในบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวมีองค์ประกอบหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่
1. ยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ
2. การปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์รายสาขาและการจัดลำดับสำคัญของแต่ละสาขา
3. การปรับปรุงกระบวนการวางแผนและระบบการติดตามและประเมินผล และ
4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเชิงสถาบัน และการเป็นหุ้นส่วน
กรอบการลงทุน RIF2022 ถูกจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนแผนปฏิบัติการฮานอย ประกอบด้วย โครงการความร่วมมือจำนวน 227 โครงการ ในสาขาความร่วมมือ 10 สาขา (ประกอบด้วยโครงการลงทุนจำนวน 143 โครงการ และโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการอีก 84 โครงการ ซึ่งแผนงานด้านคมนาคมยังคงเป็นส่วนสำคัญของกรอบการลงทุน โดยกรอบ RIF2022 ถือเป็น “แผนงาน/โครงการที่มีความเคลื่อนไหว”(Living Document) ซึ่งสามารถทบทวน เพิ่มเติม และปรับปรุงได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2561--