ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติ

ข่าวการเมือง Tuesday June 19, 2018 14:54 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ ทส. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ

สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกความร่วมมือทางวิชาการในสาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้กฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน

ขอบเขตของความร่วมมือ ประกอบด้วยสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ได้แก่

1. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน

2. นโยบายและแผนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

3. การป้องกันและควบคุมมลพิษ อาทิ มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำและดิน รวมถึงการจัดการสารเคมีและของเสียอันตราย

4. การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

5. การป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

6. การจัดองค์กรและการพัฒนาบุคลากร ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกต่อสังคมและชุมชน

7. ข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม และ

8. สาขาอื่น ๆ ที่สนใจร่วมกัน

รูปแบบความร่วมมือ ประกอบด้วย

1. การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีในด้านต่าง ๆ อาทิ การศึกษาค้นคว้าการวิจัยในสาขาความร่วมมือที่หลากหลายภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้

2. การแลกเปลี่ยนการวิจัย สารสนเทศ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบของทั้งสองราชอาณาจักร

3. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมใด ๆ

4. การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้แทนของผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่าย

5. การจัดสัมมนา การประชุม การประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมทั้งการจัดหาหลักสูตรการฝึกอบรม แผนการวิจัยและการศึกษาดูงาน และ

6. การพัฒนาและการปฏิบัติตามแผนงาน และโครงการที่เห็นชอบร่วมกัน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มิถุนายน 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ