แท็ก
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ตามที่คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ดังนี้
คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ได้จัดการประชุม ครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ณ ห้อง 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ประธาน ครส. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบและได้กำหนดแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ดังนี้
1.1 ขณะนี้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการจัดโครงการ/กิจกรรม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งเป็นจำนวนมากประมาณ 130 โครงการ/กิจกรรม ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัว จึงให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างจิตสำนึกทางการเมืองในระยะยาว อันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยมและวัฒนธรรมการเมืองแบบซื้อสิทธิขายเสียง
1.2 ในประเด็นจำนวนผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ทั้งประเทศ มีมากถึง 2,091,704 รายและผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร (ผู้ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ) จำนวน 91 แห่ง รวม 79,186 คน ซึ่งแสดงว่าประชาชนตื่นตัวในการจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
1.3 สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าขอให้ทุกภาคส่วนประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงว่า ผู้ที่ลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด และผู้ที่มีธุระไม่สามารถไปเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ได้ ขอให้ไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในหน่วยเลือกตั้งกลางที่ กกต. จัดไว้ให้ได้จำนวนมากที่สุด
1.4 ผลสำรวจเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยสถาบันวิจัยอิสระพบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างตั้งใจที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสูงมาก แต่ประชาชนกลุ่มตัวอย่างระบุว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีส่วนในการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้น จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการได้กวดขันเจ้าหน้าที่ของรัฐให้วางตัวเป็นกลาง และหากพบการกระทำความผิดให้ลงโทษตามกฎหมาย
2. ผู้อำนวยการสำนักการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง (นายชลรัช ผิวพรรณ) แจ้งให้ที่ประชุมทราบผลการดำเนินการของ กกต. (เพิ่มเติม) ว่า
2.1 ได้ดำเนินการรณรงค์ในการให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้งแก่ประชาชน และได้ผลิตเอกสารให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว
2.2 ขณะนี้กำลังแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีคนลงทะเบียนจำนวนค่อนข้างมาก
2.3 ร่วมมือกับองค์กรเอกชนจัดชุมนุมเครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเชิงลึก
3. การดำเนินการของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน (เพิ่มเติม)
ได้มีการรายงานผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการทหารสูงสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร และบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) รายละเอียดปฏิทินโครงการ/กิจกรรม การรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง แยกตามหน่วยงาน ปรากฏตามเอกสารแนบ
4. ผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการที่ ครส. แต่งตั้ง 4 คณะ
4.1 คณะอนุกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ได้ดำเนินการ ดังนี้
(1) การรณรงค์ผ่านสื่อโทรทัศน์ : สถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5,7, 9, , TITV, เนชั่น, โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดให้มีรายการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผ่านรายการต่างๆ ของทางสถานี และจัดทำสปอตโทรทัศน์เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งและต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง รวมทั้งยังมีการจัดทำรายการพิเศษเพื่อให้ข้อมูล ความรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ รายการต่างๆ ดังกล่าวจะเพิ่มความถี่และความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2550 ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง
(2) สื่อวิทยุ : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุ จส.100 , สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน , สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ (สวพ.91) สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ , สมาคมวิทยุชุมชน และสถานีวิทยุที่อยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านผู้จัดรายการวิทยุทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ
(3) องค์กร ภาคเอกชน ภาครัฐ : เช่น สมาคมธนาคารไทยได้ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านทางหน้าจอ ATM บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดทำตราประทับประชาสัมพันธ์บนซองจดหมายและพิมพ์ข้อความรณรงค์ในไปรษณียบัตรอวยพรปีใหม่ 2551
(4) มีหนังสือขอความร่วมมือสภาวิชาชีพเพิ่มเติมจากที่ได้ขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร สถาบัน ไปแล้วจำนวน 86 แห่ง เช่น สภาวิชาชีพบัญชี สภาทนายความ สภาวิศวกร สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างฯ สมาคมวิทยุสมัครเล่นฯ เป็นต้น นอกจากนี้จะได้ขอความร่วมมือเพิ่มเติมไปยังหน่วยงานที่มีเว็บไซต์เป็นของตนเองทุกแห่งเพื่อร่วมรณรงค์อีกทางหนึ่งด้วย
(5) การกำหนดให้คณะทำงานประสานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งของคณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการประสานงานกับคณะอนุกรรมการอื่นๆ รวมทั้งหน่วยงาน องค์กร สถาบัน และสื่อมวลชน เพื่อสนับสนุนข้อมูลไปใช้ในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง
4.2 คณะอนุกรรมการประสานงาน ได้ดำเนินการประสานการดำเนินงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ดังนี้
(1) การพบปะพูดคุยกลุ่มศิลปิน ดารานักแสดง ผู้จัดรายการวิทยุโทรทัศน์ และสื่อมวลชนต่าง ๆ จำนวน 100 คน ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 โดยประธาน ครส. ได้กล่าวขอความร่วมมือในการรณรงค์ มีการบรรยายความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง โดยผู้แทน กกต. และการสาธิตการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
(2) การพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนพิการ และสตรี จำนวน 200 คน ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2550 โดยประธาน ครส. ได้กล่าวขอความร่วมมือในการรณรงค์ มีการร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงโดยศิลปินตลกได้ร่วมรณรงค์ด้วย หลังจากนั้น เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้บรรยายเรื่อง การเตรียมการเลือกตั้งสำหรับคนพิการ สำหรับการจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาคกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ
4.3 คณะอนุกรรมการวิชาการ ได้ดำเนินการผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ดังนี้
(1) ความคืบหน้าการจัดทำเว็บไซต์ของ ครส. (www.sce.thaigov.go.th) ได้ประสานกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเปิดใช้งานเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป และได้ขอความร่วมมือคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ ใน ครส. ร่วมกันสนับสนุนข้อมูลและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ดังกล่าว
(2) การติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พบว่าประชาชนรับรู้เรื่องการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 มากขึ้น แต่ยังสับสนเกี่ยวกับวิธีการเลือกตั้ง
(3) สถานการณ์การซื้อสิทธิขายเสียง พบว่า เริ่มมีการจ่ายเงินให้หัวคะแนน การจัดรถให้ประชาชนไปฟังปราศรัยพร้อมจ่ายเงินค่าอาหารให้คนละ 200-300 บาท การแข่งขันในพื้นที่จะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนในชนบททราบดีว่ามีการซื้อเสียง แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือกับ กกต. หรือทางราชการ เพื่อแจ้งเหตุ
4.3 คณะอนุกรรมการดำเนินการ “ศูนย์สร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง” ได้ดำเนินการ ดังนี้
(1) จัดตั้งศูนย์สร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ณ บริเวณชั้น 1 ตึกบัญชาการ โดยจะย้ายไปอยู่ที่ตึกสันติไมตรี ในวันที่ 11 ธันวาคม 2550 เพื่อให้เป็นเวทีกลางในกลางในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง จะมีการจัดกิจกรรมบริเวณศูนย์ เช่น เชิญนักวิชาการมาบรรยาย เป็นต้น
(2) ให้ดำเนินการผลิตสื่อต่าง ๆ ได้แก่ สื่อพิมพ์ประเภทโปสเตอร์ วิทยุ และโทรทัศน์ แต่ต้องปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากที่สุด
5. การประเมินผลการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 โดยกระทรวงมหาดไทยสรุปได้ ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2550)
5.1 ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่รับทราบว่า วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 เป็นวันเลือกตั้ง คิดเป็นร้อยละ 86.03 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดตาก คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดร้อยเอ็ด คิดเป็นร้อยละ 55.03 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 1 จังหวัด คือ จังหวัดร้อยเอ็ด
5.2 ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ คิดเป็นร้อยละ 71.74 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดลำพูน คิดเป็นร้อยละ 85.00 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดน่าน คิดเป็นร้อยละ 63.93 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 2 จังหวัด
5.3 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีตัวตนอยู่จริงคิดเป็นร้อยละ 85.02 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดสระแก้ว คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดศรีสะเกษ คิดเป็นร้อยละ 63.27 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 4 จังหวัด ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดการรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ ในจังหวัดที่มีผลการประเมินผู้มาใช้สิทธิออกเสียงต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว
6. สภาพปัญหาที่ ครส. ได้รับทราบ มีดังนี้
6.1 การเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน และแบบสัดส่วน 80 คน ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเลือก ส.ส. แบบสัดส่วนและยังมีความสับสนในการกาบัตร ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ประสานให้ผู้แทน กกต. รับทราบปัญหาแล้ว
6.2 ป้ายประชาสัมพันธ์ตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบสัดส่วนมีน้อย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง
6.3 ประชาชนโดยทั่วไปยังไม่ทราบว่า ในการจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ระหว่างเวลา 08.00 — 17.00 น. ใครเป็นผู้มีสิทธิไปเลือกตั้งล่วงหน้าได้ และไปเลือกตั้งที่ใด ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน
6.4 ให้ระมัดระวังการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ว่าจะมีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากมีผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตมาก อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายการซื้อสิทธิขายเสียง
7. เรื่องอื่น ๆ ครส. กำหนดการประชุมครั้งต่อไป ครั้งที่ 5/2550 วันที่ 17 ธันวาคม 2550 โดยจะขอให้กระทรวงมหาดไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ทำการถ่ายทอดสดการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ทุกภาคเกี่ยวกับการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ธันวาคม 2550--จบ--
คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ได้จัดการประชุม ครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ณ ห้อง 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ประธาน ครส. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบและได้กำหนดแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ดังนี้
1.1 ขณะนี้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการจัดโครงการ/กิจกรรม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งเป็นจำนวนมากประมาณ 130 โครงการ/กิจกรรม ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัว จึงให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างจิตสำนึกทางการเมืองในระยะยาว อันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยมและวัฒนธรรมการเมืองแบบซื้อสิทธิขายเสียง
1.2 ในประเด็นจำนวนผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ทั้งประเทศ มีมากถึง 2,091,704 รายและผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร (ผู้ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ) จำนวน 91 แห่ง รวม 79,186 คน ซึ่งแสดงว่าประชาชนตื่นตัวในการจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
1.3 สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าขอให้ทุกภาคส่วนประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงว่า ผู้ที่ลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด และผู้ที่มีธุระไม่สามารถไปเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ได้ ขอให้ไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในหน่วยเลือกตั้งกลางที่ กกต. จัดไว้ให้ได้จำนวนมากที่สุด
1.4 ผลสำรวจเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยสถาบันวิจัยอิสระพบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างตั้งใจที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสูงมาก แต่ประชาชนกลุ่มตัวอย่างระบุว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีส่วนในการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้น จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการได้กวดขันเจ้าหน้าที่ของรัฐให้วางตัวเป็นกลาง และหากพบการกระทำความผิดให้ลงโทษตามกฎหมาย
2. ผู้อำนวยการสำนักการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง (นายชลรัช ผิวพรรณ) แจ้งให้ที่ประชุมทราบผลการดำเนินการของ กกต. (เพิ่มเติม) ว่า
2.1 ได้ดำเนินการรณรงค์ในการให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้งแก่ประชาชน และได้ผลิตเอกสารให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว
2.2 ขณะนี้กำลังแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีคนลงทะเบียนจำนวนค่อนข้างมาก
2.3 ร่วมมือกับองค์กรเอกชนจัดชุมนุมเครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเชิงลึก
3. การดำเนินการของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน (เพิ่มเติม)
ได้มีการรายงานผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมเพิ่มเติม โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการทหารสูงสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร และบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) รายละเอียดปฏิทินโครงการ/กิจกรรม การรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง แยกตามหน่วยงาน ปรากฏตามเอกสารแนบ
4. ผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการที่ ครส. แต่งตั้ง 4 คณะ
4.1 คณะอนุกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ได้ดำเนินการ ดังนี้
(1) การรณรงค์ผ่านสื่อโทรทัศน์ : สถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5,7, 9, , TITV, เนชั่น, โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดให้มีรายการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผ่านรายการต่างๆ ของทางสถานี และจัดทำสปอตโทรทัศน์เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งและต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง รวมทั้งยังมีการจัดทำรายการพิเศษเพื่อให้ข้อมูล ความรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ รายการต่างๆ ดังกล่าวจะเพิ่มความถี่และความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2550 ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง
(2) สื่อวิทยุ : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุ จส.100 , สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน , สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ (สวพ.91) สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ , สมาคมวิทยุชุมชน และสถานีวิทยุที่อยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านผู้จัดรายการวิทยุทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ
(3) องค์กร ภาคเอกชน ภาครัฐ : เช่น สมาคมธนาคารไทยได้ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านทางหน้าจอ ATM บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดทำตราประทับประชาสัมพันธ์บนซองจดหมายและพิมพ์ข้อความรณรงค์ในไปรษณียบัตรอวยพรปีใหม่ 2551
(4) มีหนังสือขอความร่วมมือสภาวิชาชีพเพิ่มเติมจากที่ได้ขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร สถาบัน ไปแล้วจำนวน 86 แห่ง เช่น สภาวิชาชีพบัญชี สภาทนายความ สภาวิศวกร สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างฯ สมาคมวิทยุสมัครเล่นฯ เป็นต้น นอกจากนี้จะได้ขอความร่วมมือเพิ่มเติมไปยังหน่วยงานที่มีเว็บไซต์เป็นของตนเองทุกแห่งเพื่อร่วมรณรงค์อีกทางหนึ่งด้วย
(5) การกำหนดให้คณะทำงานประสานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งของคณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการประสานงานกับคณะอนุกรรมการอื่นๆ รวมทั้งหน่วยงาน องค์กร สถาบัน และสื่อมวลชน เพื่อสนับสนุนข้อมูลไปใช้ในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง
4.2 คณะอนุกรรมการประสานงาน ได้ดำเนินการประสานการดำเนินงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน ดังนี้
(1) การพบปะพูดคุยกลุ่มศิลปิน ดารานักแสดง ผู้จัดรายการวิทยุโทรทัศน์ และสื่อมวลชนต่าง ๆ จำนวน 100 คน ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 โดยประธาน ครส. ได้กล่าวขอความร่วมมือในการรณรงค์ มีการบรรยายความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง โดยผู้แทน กกต. และการสาธิตการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
(2) การพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนพิการ และสตรี จำนวน 200 คน ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2550 โดยประธาน ครส. ได้กล่าวขอความร่วมมือในการรณรงค์ มีการร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงโดยศิลปินตลกได้ร่วมรณรงค์ด้วย หลังจากนั้น เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้บรรยายเรื่อง การเตรียมการเลือกตั้งสำหรับคนพิการ สำหรับการจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาคกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ
4.3 คณะอนุกรรมการวิชาการ ได้ดำเนินการผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ดังนี้
(1) ความคืบหน้าการจัดทำเว็บไซต์ของ ครส. (www.sce.thaigov.go.th) ได้ประสานกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเปิดใช้งานเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป และได้ขอความร่วมมือคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ ใน ครส. ร่วมกันสนับสนุนข้อมูลและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ดังกล่าว
(2) การติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พบว่าประชาชนรับรู้เรื่องการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 มากขึ้น แต่ยังสับสนเกี่ยวกับวิธีการเลือกตั้ง
(3) สถานการณ์การซื้อสิทธิขายเสียง พบว่า เริ่มมีการจ่ายเงินให้หัวคะแนน การจัดรถให้ประชาชนไปฟังปราศรัยพร้อมจ่ายเงินค่าอาหารให้คนละ 200-300 บาท การแข่งขันในพื้นที่จะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนในชนบททราบดีว่ามีการซื้อเสียง แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือกับ กกต. หรือทางราชการ เพื่อแจ้งเหตุ
4.3 คณะอนุกรรมการดำเนินการ “ศูนย์สร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง” ได้ดำเนินการ ดังนี้
(1) จัดตั้งศูนย์สร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ณ บริเวณชั้น 1 ตึกบัญชาการ โดยจะย้ายไปอยู่ที่ตึกสันติไมตรี ในวันที่ 11 ธันวาคม 2550 เพื่อให้เป็นเวทีกลางในกลางในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกตั้ง จะมีการจัดกิจกรรมบริเวณศูนย์ เช่น เชิญนักวิชาการมาบรรยาย เป็นต้น
(2) ให้ดำเนินการผลิตสื่อต่าง ๆ ได้แก่ สื่อพิมพ์ประเภทโปสเตอร์ วิทยุ และโทรทัศน์ แต่ต้องปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากที่สุด
5. การประเมินผลการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 โดยกระทรวงมหาดไทยสรุปได้ ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2550)
5.1 ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่รับทราบว่า วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 เป็นวันเลือกตั้ง คิดเป็นร้อยละ 86.03 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดตาก คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดร้อยเอ็ด คิดเป็นร้อยละ 55.03 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 1 จังหวัด คือ จังหวัดร้อยเอ็ด
5.2 ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ คิดเป็นร้อยละ 71.74 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดลำพูน คิดเป็นร้อยละ 85.00 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดน่าน คิดเป็นร้อยละ 63.93 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 2 จังหวัด
5.3 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีตัวตนอยู่จริงคิดเป็นร้อยละ 85.02 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินสูงสุด คือ จังหวัดสระแก้ว คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผลการประเมินต่ำสุด คือ จังหวัดศรีสะเกษ คิดเป็นร้อยละ 63.27 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จังหวัดที่ผลการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 70 มีจำนวน 4 จังหวัด ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดการรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ ในจังหวัดที่มีผลการประเมินผู้มาใช้สิทธิออกเสียงต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว
6. สภาพปัญหาที่ ครส. ได้รับทราบ มีดังนี้
6.1 การเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน และแบบสัดส่วน 80 คน ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเลือก ส.ส. แบบสัดส่วนและยังมีความสับสนในการกาบัตร ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ประสานให้ผู้แทน กกต. รับทราบปัญหาแล้ว
6.2 ป้ายประชาสัมพันธ์ตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบสัดส่วนมีน้อย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง
6.3 ประชาชนโดยทั่วไปยังไม่ทราบว่า ในการจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ระหว่างเวลา 08.00 — 17.00 น. ใครเป็นผู้มีสิทธิไปเลือกตั้งล่วงหน้าได้ และไปเลือกตั้งที่ใด ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน
6.4 ให้ระมัดระวังการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ว่าจะมีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากมีผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตมาก อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายการซื้อสิทธิขายเสียง
7. เรื่องอื่น ๆ ครส. กำหนดการประชุมครั้งต่อไป ครั้งที่ 5/2550 วันที่ 17 ธันวาคม 2550 โดยจะขอให้กระทรวงมหาดไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ทำการถ่ายทอดสดการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ทุกภาคเกี่ยวกับการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ธันวาคม 2550--จบ--