1. เห็นชอบร่างปฏิญญารัฐมนตรีการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (High-Level Political Forum on Sustainable Development - HLPF) ค.ศ. 2018
2. อนุมัติให้เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประจำชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ
3. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้อยู่ดุลยพินิจของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของร่างปฏิญญาฯ เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่งในการไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลังเป็นแก่นของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และควรเป็นหลักการนำทางสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลในทุกระดับ
- ความสำคัญของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเยาวชนในการติดตามและอนุวัติเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งความสำคัญของการเสริมพลังให้แก่เด็กและเยาวชนด้วยข้อมูล ความรู้ และ ความตระหนักด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
- ให้คำมั่นที่จะสร้างขีดความสามารถทั้งในระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับโลก เพื่อรวบรวม สร้าง จำแนก วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลและสถิติที่มีคุณภาพ
- ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดเป็นวงกว้างและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นภาระต่อประเทศที่ยากจนที่สุดและอ่อนแอมากที่สุด
- การสร้างเสริมให้เกิดความสอดประสานของแต่ละเป้าหมายให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน
- การยกระดับการลงทุนและการดำเนินการโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนเพิ่มเติมการเข้าถึงการวิจัยและเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด เพิ่มการใช้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน และทำให้พลังงานสะอาดมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
- ปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการบริหารจัดการเมืองให้มีประสิทธิภาพและเป็นแบบองค์รวม ซึ่งรวมไปถึงระดับคมนาคมอัจฉริยะและความมีประสิทธิภาพของการใช้พลังงานและการจัดการของเสีย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 กรกฎาคม 2561--