คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ Letter of Understanding ระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักเลขาธิการอนุสัญญาแรมซาร์เกี่ยวกับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมภูมิภาคเอเชียเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (อนุสัญญาแรมซาร์) สมัยที่ 10 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนามใน Letter of Understanding ดังกล่าว และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้โดยเร็วต่อไป โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่กำหนดไว้ใน Letter of Understanding ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการโดยประหยัด และให้พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า
1. ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำหรืออนุสัญญาแรมซาร์ในลำดับที่ 110 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2541 และจากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 9 ณ กรุงคัมพาลา สาธารณรัฐยูกานดา ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้แทนภูมิภาคเอเชียในคณะกรรมการบริหารของอนุสัญญาฯ ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี
2. ระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 35 ในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2550 ณ เมือง Gland สมาพันธรัฐสวิส ได้มีการหารือระหว่างผู้แทนภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วยผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเทศไทย และผู้ประสานภูมิภาคเอเชียของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการจัดการประชุมภูมิภาคเอเชีย (Asia Regional Meeting ) ในประเทศไทย
3. สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ได้จัดส่งหนังสือเพื่อขอความร่วมมือให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมภูมิภาคเอเชียพร้อมร่าง Letter of Understanding การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมภูมิภาคเอเชียให้ประเทศไทยลงนาม เพื่อเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดให้มีการประชุมภูมิภาคเอเชียเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 10 ในระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม พ.ศ. 2551 ซึ่งจะต้องลงนามใน Letter of Understanding เพื่อเป็นการยืนยันการรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
4. วัตถุประสงค์ของแนวทางการดำเนินงาน เพื่อรักษาภาพพจน์และชื่อเสียงของประเทศไทยในเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมีบทบาทเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ เนื่องจากประเทศไทยได้รับคัดเลือกจากประเทศภาคีในภูมิภาคเอเชียให้เป็นผู้แทนของภูมิภาคในคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี
5. Letter of Understanding ฉบับนี้เป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบด้านต่าง ๆ ของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ และของรัฐบาลไทย ได้แก่ การสนับสนุนงบประมาณผู้เข้าร่วมประชุม การจัดทำระเบียบวาระการประชุม การออกหนังสือเชิญประชุม การอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่จัดประชุม จัดพาหนะรับส่ง การตรวจลงตราหนังสือเดินทางและขั้นตอน และการให้ความช่วยเหลือแก่สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ธันวาคม 2550--จบ--
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า
1. ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำหรืออนุสัญญาแรมซาร์ในลำดับที่ 110 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2541 และจากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 9 ณ กรุงคัมพาลา สาธารณรัฐยูกานดา ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้แทนภูมิภาคเอเชียในคณะกรรมการบริหารของอนุสัญญาฯ ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี
2. ระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 35 ในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2550 ณ เมือง Gland สมาพันธรัฐสวิส ได้มีการหารือระหว่างผู้แทนภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วยผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเทศไทย และผู้ประสานภูมิภาคเอเชียของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการจัดการประชุมภูมิภาคเอเชีย (Asia Regional Meeting ) ในประเทศไทย
3. สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ได้จัดส่งหนังสือเพื่อขอความร่วมมือให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมภูมิภาคเอเชียพร้อมร่าง Letter of Understanding การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมภูมิภาคเอเชียให้ประเทศไทยลงนาม เพื่อเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดให้มีการประชุมภูมิภาคเอเชียเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 10 ในระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม พ.ศ. 2551 ซึ่งจะต้องลงนามใน Letter of Understanding เพื่อเป็นการยืนยันการรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
4. วัตถุประสงค์ของแนวทางการดำเนินงาน เพื่อรักษาภาพพจน์และชื่อเสียงของประเทศไทยในเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมีบทบาทเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ เนื่องจากประเทศไทยได้รับคัดเลือกจากประเทศภาคีในภูมิภาคเอเชียให้เป็นผู้แทนของภูมิภาคในคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี
5. Letter of Understanding ฉบับนี้เป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบด้านต่าง ๆ ของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ และของรัฐบาลไทย ได้แก่ การสนับสนุนงบประมาณผู้เข้าร่วมประชุม การจัดทำระเบียบวาระการประชุม การออกหนังสือเชิญประชุม การอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่จัดประชุม จัดพาหนะรับส่ง การตรวจลงตราหนังสือเดินทางและขั้นตอน และการให้ความช่วยเหลือแก่สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ธันวาคม 2550--จบ--