ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต พ.ศ. ....

1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

2. เห็นชอบแผนการจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ

3. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

1. ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต พ.ศ. ....

1.1 กำหนดให้จัดตั้งศูนย์ฯ ขึ้นเป็นส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 18 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และให้มีผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งมีฐานะเป็นอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของศูนย์ฯ สำหรับการตั้งสาขาและการแบ่งส่วนราชการในศูนย์ฯ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

1.2 กำหนดให้ศูนย์ฯ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อมูลของหน่วยงานของผู้อนุญาตกับศูนย์ฯ เชื่อมโยงถึงกันอย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งให้ศูนย์ฯ มีสิทธิเรียกเก็บค่าบริการนอกเหนือจากค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ ศูนย์ฯ อาจปฏิบัติงานตามหน้าที่โดยใช้ระบบอิเล็ทรอนิกส์ก็ได้

1.3 กำหนดรายชื่อกฎหมายที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของศูนย์ฯ ให้เป็นไปตามบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ และผู้ยื่นคำขออาจยื่นคำขอที่ศูนย์ฯ ได้ตามประเภทการอนุญาตที่ศูนย์ฯ กำหนด และการยื่นคำขออาจยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ หรือทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

1.4 กำหนดให้ศูนย์ฯ เปิดบริการรับคำขอจากประชาชนภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ พระราชกฤษฎีกานี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2. แผนการจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต

2.1 โครงสร้างของศูนย์ฯ บุคลากรของศูนย์ฯ จำนวน 25 อัตรา ประกอบด้วย

1) ข้าราชการ จำนวน 5 อัตรา ได้แก่ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ ผู้อำนวยการภารกิจ และข้าราชการ จำนวน 2 อัตรา

2) พนักงานราชการ จำนวน 20 อัตรา

ในระยะเริ่มแรก ให้เลขาธิการ ก.พ.ร. สั่งให้ข้าราชการของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปปฏิบัติงานที่ศูนย์ฯ ไปพลางก่อน โดยให้ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน หรือสวัสดิการและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นตามที่เคยได้รับอยู่ จนกว่าจะได้มีการจัดหาบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ โดยจะประสานขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรจากสำนักงาน ก.พ. ต่อไป

2.2 งบประมาณ ในระยะแรก จำนวน 35,020,000 บาท (สามสิบห้าล้านสองหมื่นบาทถ้วน) ประกอบด้วย งบบุคลากร ได้แก่ เงินเดือนและค่าจ้างพนักงานราชการ งบดำเนินงาน ได้แก่ งบที่ใช้ในการพัฒนาระบบการให้บริการของศูนย์ฯ และงบลงทุน ได้แก่ ค่าครุภัณฑ์สำนักงาน ครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และการจัดเตรียมสถานที่ทำงาน โดยจะประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณต่อไป

2.3 สถานที่ตั้งของศูนย์ฯ

1) ระยะแรก

(1) ในกรุงเทพมหานคร ณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ. (เดิม))

(2) ในต่างจังหวัด ขอใช้พื้นที่ของศูนย์ดำรงธรรมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนั้น ๆ (4 ภาค 8 จังหวัด)

2) ระยะที่สอง อาจจะประสานขอเปิดให้บริการในศูนย์การค้า ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

3) ระยะยาว อาจตั้งสาขาประจำกระทรวง และตั้งสาขาประจำจังหวัด เป็นต้น

อนึ่ง สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการทดลองเปิดศูนย์ฯ ในเดือนมกราคม 2561 โดยใช้พื้นที่ของศูนย์อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการที่ตั้งอยู่ บริเวณชั้น 1 ของอาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ. (เดิม)) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และระบบก่อนร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ฯ จะมีผลใช้บังคับ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 สิงหาคม 2561--