เรื่อง ผลการดำเนินการตามมาตรา 5/8 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 เรื่อง หลักเกณฑ์การกู้ยืมเงิน การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น และการจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญขององค์การมหาชน
1. เห็นชอบยกเลิกหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงิน การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น การจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญขององค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552
2. เห็นชอบผลการดำเนินการตามมาตรา 5/8 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 เรื่อง หลักเกณฑ์การกู้ยืมเงิน การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น การจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญขององค์การมหาชนของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน และให้องค์การมหาชนที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
3. เห็นชอบให้คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเป็นผู้วินิจฉัยในกรณีที่องค์การมหาชนไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ เมื่อสำนักงาน ก.พ.ร. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ตามความเห็นและข้อสังเกตดังกล่าวแล้วให้นำเสนอคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วดำเนินการต่อไปได้
ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงิน การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น การจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญขององค์การมหาชนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 และปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เช่น ปรับรูปแบบของหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงิน การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น และการจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญขององค์การมหาชน ให้มีลักษณะตามรูปแบบของกฎหมาย โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ (1) บทนิยาม (2) ส่วนที่ 1 การกู้ยืมเงิน (3) ส่วนที่ 2 การถือหุ้นหรือการเข้าเป็นหุ้นส่วน การเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่น และ (4) ส่วนที่ 3 การจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญ กำหนดให้องค์การมหาชนที่จะเข้าร่วมทุนต้องจัดทำคำชี้แจงประกอบการเสนอคณะกรรมการ รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยเพิ่มเติมรายละเอียดคำชี้แจง 3 ประเด็น ได้แก่ วัตถุประสงค์ขององค์การมหาชน ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ และรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ รัฐมนตรีผู้กำกับดูแล หรือคณะรัฐมนตรีกำหนด และกำหนดให้การจำหน่ายพัสดุเป็นสูญต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยกำหนดเป็นแนวปฏิบัติเรื่องการจำหน่ายหนี้สูญขององค์การมหาชน รวมทั้งปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้กระชับและชัดเจนยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 สิงหาคม 2561--