คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ... ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ... เป็นการกำหนดมาตรฐานงานขั้นต่ำของระบบงานเรื่องราวร้องทุกข์ของส่วนราชการเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบฯ ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีสาระสำคัญการปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบฯ ดังนี้
1. แก้ไขชื่อร่างระเบียบจาก “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ...” เป็น “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ...” เพื่อให้ครอบคลุมบทบาท อำนาจหน้าที่ในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
2. แก้ไขนิยามคำว่า “ผู้ร้องทุกข์” เป็น “ผู้ร้องทุกข์ หมายความว่า ประชาชน ข้าราชการที่เสนอคำร้องทุกข์ และรวมถึงผู้เสนอคำร้องทุกข์แทน” เพื่อให้ชัดเจนขึ้นตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
3. เพิ่มความเป็นวรรคสองของร่างข้อ 5 ดังนี้ “เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ หากเห็นว่าเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ร้องทุกข์เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนหรือกระบวนการทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพึงต้องแนะนำให้ผู้ร้องทุกข์ไปดำเนินการตามขั้นตอนหรือกระบวนการ เพื่อไม่เสียประโยชน์ตามเงื่อนเวลาของกฎหมายนั้น ๆ” เพื่อให้มีระบบความเชื่อมโยงหรือวิธีพิจารณาอย่างชัดเจนตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
4. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ตามร่างข้อ 10 วรรคสอง เป็น “ให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ และอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ” เพื่อให้เป็นไปตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ
5. ได้แก้ไขร่างข้อ 14 (3) เพื่อให้มีระบบเชื่อมโยงประสานการดำเนินการให้รองรับกับศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร.
6. ข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรกำหนดให้ผู้ร้องทุกข์ส่งคำร้องทุกข์เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม จากการร้องทุกข์ทางโทรศัพท์นั้น มิได้มีการแก้ไข เนื่องจากการร้องทุกข์ทางโทรศัพท์เป็นการลดขั้นตอนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งตอบสนองการให้บริการประชาชนที่สะดวกรวดเร็ว
7. ตามร่างข้อ 36 วรรคหนึ่ง การทำความเห็นและวินิจฉัย เป็นการเสนอความเห็นและสั่งการตามลำดับการบังคับบัญชา ซึ่งอาจมีความเห็นสอดคล้องหรือแย้งกันก็ได้ ซึ่งเป็นการถ่วงดุลกัน ไม่ถือว่าเป็นความเห็นจากบุคคลคนเดียว จึงไม่จำต้องกำหนดให้วินิจฉัยในรูปคณะกรรมการวินิจฉัยตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
8. ตัดแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ในร่างระเบียบฯ ออก เพราะอาจมีการแก้ไขในโอกาสต่อไป และนำไปกำหนดไว้ในคู่มือปฏิบัติงานต่อไป จึงได้เสนอร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังนี้
1. กำหนดหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 5 ถึงข้อ 9)
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ คณะกรรมการฝ่ายตามความเหมาะสมและจำเป็น อย่างน้อย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายสวัสดิการสงเคราะห์และการสาธารณสุข ฝ่ายการประกอบอาชีพ และฝ่ายกระบวนการยุติธรรม คณะอนุกรรมการประจำกระทรวง และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแต่ละคณะไว้ รวมทั้งให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการแต่ละคณะมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุม (ร่างข้อ 10 ข้อ 14 ถึงข้อ 20)
3. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการเสนอและการรับคำร้องทุกข์ (ร่างข้อ 21 ถึงข้อ 32)
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 33 ถึงข้อ 50)
5. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับการจัดทำคำวินิจฉัยเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 51 ถึงข้อ 54)
6. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับให้เป็นไปตามระเบียบและคำวินิจฉัยสั่งการ (ร่างข้อ 55 ถึงข้อ 62)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มกราคม 2551--จบ--
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ... เป็นการกำหนดมาตรฐานงานขั้นต่ำของระบบงานเรื่องราวร้องทุกข์ของส่วนราชการเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบฯ ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีสาระสำคัญการปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบฯ ดังนี้
1. แก้ไขชื่อร่างระเบียบจาก “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ...” เป็น “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. ...” เพื่อให้ครอบคลุมบทบาท อำนาจหน้าที่ในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
2. แก้ไขนิยามคำว่า “ผู้ร้องทุกข์” เป็น “ผู้ร้องทุกข์ หมายความว่า ประชาชน ข้าราชการที่เสนอคำร้องทุกข์ และรวมถึงผู้เสนอคำร้องทุกข์แทน” เพื่อให้ชัดเจนขึ้นตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
3. เพิ่มความเป็นวรรคสองของร่างข้อ 5 ดังนี้ “เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ หากเห็นว่าเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ร้องทุกข์เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนหรือกระบวนการทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพึงต้องแนะนำให้ผู้ร้องทุกข์ไปดำเนินการตามขั้นตอนหรือกระบวนการ เพื่อไม่เสียประโยชน์ตามเงื่อนเวลาของกฎหมายนั้น ๆ” เพื่อให้มีระบบความเชื่อมโยงหรือวิธีพิจารณาอย่างชัดเจนตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
4. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ตามร่างข้อ 10 วรรคสอง เป็น “ให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ และอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ” เพื่อให้เป็นไปตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ
5. ได้แก้ไขร่างข้อ 14 (3) เพื่อให้มีระบบเชื่อมโยงประสานการดำเนินการให้รองรับกับศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร.
6. ข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรกำหนดให้ผู้ร้องทุกข์ส่งคำร้องทุกข์เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม จากการร้องทุกข์ทางโทรศัพท์นั้น มิได้มีการแก้ไข เนื่องจากการร้องทุกข์ทางโทรศัพท์เป็นการลดขั้นตอนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งตอบสนองการให้บริการประชาชนที่สะดวกรวดเร็ว
7. ตามร่างข้อ 36 วรรคหนึ่ง การทำความเห็นและวินิจฉัย เป็นการเสนอความเห็นและสั่งการตามลำดับการบังคับบัญชา ซึ่งอาจมีความเห็นสอดคล้องหรือแย้งกันก็ได้ ซึ่งเป็นการถ่วงดุลกัน ไม่ถือว่าเป็นความเห็นจากบุคคลคนเดียว จึงไม่จำต้องกำหนดให้วินิจฉัยในรูปคณะกรรมการวินิจฉัยตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.
8. ตัดแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ในร่างระเบียบฯ ออก เพราะอาจมีการแก้ไขในโอกาสต่อไป และนำไปกำหนดไว้ในคู่มือปฏิบัติงานต่อไป จึงได้เสนอร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังนี้
1. กำหนดหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 5 ถึงข้อ 9)
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ คณะกรรมการฝ่ายตามความเหมาะสมและจำเป็น อย่างน้อย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายสวัสดิการสงเคราะห์และการสาธารณสุข ฝ่ายการประกอบอาชีพ และฝ่ายกระบวนการยุติธรรม คณะอนุกรรมการประจำกระทรวง และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแต่ละคณะไว้ รวมทั้งให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการแต่ละคณะมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุม (ร่างข้อ 10 ข้อ 14 ถึงข้อ 20)
3. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการเสนอและการรับคำร้องทุกข์ (ร่างข้อ 21 ถึงข้อ 32)
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 33 ถึงข้อ 50)
5. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับการจัดทำคำวินิจฉัยเรื่องราวร้องทุกข์ (ร่างข้อ 51 ถึงข้อ 54)
6. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับให้เป็นไปตามระเบียบและคำวินิจฉัยสั่งการ (ร่างข้อ 55 ถึงข้อ 62)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มกราคม 2551--จบ--