คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมและพัฒนาการใช้ทรัพยากรสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมและพัฒนาการใช้ทรัพยากรสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง เสนอ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมและพัฒนาการใช้ทรัพยากรสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมืองรายงานว่า คณะกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมและพัฒนาการใช้ทรัพยากรสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ได้จัดทำแผนแม่บทฯ เสร็จ เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 บทนำ ส่วนที่ 2 บริบททางเศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง และสังคม ส่วนที่ 3 บริบทสภาพการณ์และปัญหาสื่อมวลชนไทย ส่วนที่ 4 วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ และสภาพที่พึงประสงค์ ส่วนที่ 5 เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และพันธกิจ และส่วนที่ 6 วิธีการดำเนินการเพื่อบรรลุพันธกิจในการใช้ทรัพยากรกรสื่อสารเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมืองแผนแม่บทส่งเสริมและพัฒนาการใช้ทรัพยากรสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
1. ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในการไหลของข้อมูลข่าวสารระหว่างเมืองกับชนบท ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเต็มที่และรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy)
2. มีเครือข่ายที่เป็นการรวมตัวระหว่างกลุ่มต่าง ๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และ ภาคประชาชน อันได้แก่ องค์กรพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่มีเป้าหมายเพื่อ
2.1 ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ผลิตให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามเป้าหมายหรืออุดมการณ์ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และหลักจรรยาบรรณ จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม
2.2 ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นผู้บริโภคและผู้รับข้อมูลข่าวสารให้ได้รับสิทธิประโยชน์และความเป็นธรรม ทั้งในฐานะพลเมืองและในฐานะผู้บริโภค ทั้งในฐานะผู้รับสารและผู้ส่งสาร หรือผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการของสื่อ โดยเฉพาะสื่อภาครัฐและภาคประชาชน
3. มีนโยบายและแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนในการใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาบุคคล พัฒนาสังคมและพัฒนาการเมือง โดยการสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางตรงของประชาชนในด้านการเมือง การปกครอง การบริหารจัดการประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาคุณภาพกับความเป็นธรรมในสังคมเป็นเป้าหมายสำคัญ
4. มีองค์กรอิสระดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติสาธารณะให้แก่ภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนอย่างสมดุล เป็นธรรม และโปร่งใส
5. สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผลิตเนื้อหาที่ถูกต้องเป็นจริง เป็นธรรม มีความหลากหลายทั้งปริมาณและคุณภาพ ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาที่มีทั้งการเผยแพร่ข่าว สาระ ความรู้ ความคิดเห็น ความบันเทิง และการโฆษณาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับที่มีความหลากหลายในความคิด ความเชื่อ วิถีวัฒนธรรม และสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม
6. การแข่งขันทางธุรกิจของสื่อทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ต้องปกป้องไม่ให้นำไปสู่การผูกขาด ต้องสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มการเมืองและอิทธิพลกลุ่มทุนขนาดใหญ่หรือทุนผูกขาด ทุนข้ามชาติ
7. สนับสนุนให้มีการดำเนินกิจการสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อบริการสาธารณะทั้งในระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และระดับชุมชนที่ไม่ดำเนินการเพื่อธุรกิจและผลกำไรภายใต้การดูแลขององค์กรอิสระ ด้วยการสนับสนุนและปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐ
8. มีการส่งเสริมเทคโนโลยี ทั้งเพื่อการผลิต (Produce) การแพร่กระจาย (Broadcast) การดำเนินการด้านเครือข่ายหรือโครงข่าย (Network) เพื่อเพิ่มขยายช่องทางการรับส่งสัญญาณและข้อมูล รวมทั้งเพื่อการรับสารหรือสัญญาณ (Receive ) ของประชาชน ที่มีประสิทธิภาพทางเทคนิคและการเข้าถึงอย่างสะดวกและหลากหลาย คือ ทั้งในระดับระหว่างประเทศ ในประเทศ ในภูมิภาค ในท้องถิ่น และในชุมชน
9. เพื่อให้การปฏิรูปสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์บรรลุตามภารกิจที่ได้รับ มอบหมาย คณะกรรมการฯ จึงดำเนินการจัดทำแผนแม่บทฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ประการ คือ
9.1 การจัดสรรคลื่นความถี่และการออกใบอนุญาตอย่างเป็นธรรม
9.2 การกำกับดูแลเนื้อหาที่คำนึงถึงประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นสำคัญ
9.3 การส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพการสื่อสารของประชาชนและสื่อมวลชน
9.4 การใช้พัฒนาการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
9.5 การใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อการพัฒนาสังคมและการเมือง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มกราคม 2551--จบ--
1. ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในการไหลของข้อมูลข่าวสารระหว่างเมืองกับชนบท ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเต็มที่และรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy)
2. มีเครือข่ายที่เป็นการรวมตัวระหว่างกลุ่มต่าง ๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และ ภาคประชาชน อันได้แก่ องค์กรพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่มีเป้าหมายเพื่อ
2.1 ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ผลิตให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามเป้าหมายหรืออุดมการณ์ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และหลักจรรยาบรรณ จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม
2.2 ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นผู้บริโภคและผู้รับข้อมูลข่าวสารให้ได้รับสิทธิประโยชน์และความเป็นธรรม ทั้งในฐานะพลเมืองและในฐานะผู้บริโภค ทั้งในฐานะผู้รับสารและผู้ส่งสาร หรือผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการของสื่อ โดยเฉพาะสื่อภาครัฐและภาคประชาชน
3. มีนโยบายและแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนในการใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาบุคคล พัฒนาสังคมและพัฒนาการเมือง โดยการสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางตรงของประชาชนในด้านการเมือง การปกครอง การบริหารจัดการประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาคุณภาพกับความเป็นธรรมในสังคมเป็นเป้าหมายสำคัญ
4. มีองค์กรอิสระดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติสาธารณะให้แก่ภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนอย่างสมดุล เป็นธรรม และโปร่งใส
5. สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผลิตเนื้อหาที่ถูกต้องเป็นจริง เป็นธรรม มีความหลากหลายทั้งปริมาณและคุณภาพ ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาที่มีทั้งการเผยแพร่ข่าว สาระ ความรู้ ความคิดเห็น ความบันเทิง และการโฆษณาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับที่มีความหลากหลายในความคิด ความเชื่อ วิถีวัฒนธรรม และสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม
6. การแข่งขันทางธุรกิจของสื่อทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ต้องปกป้องไม่ให้นำไปสู่การผูกขาด ต้องสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มการเมืองและอิทธิพลกลุ่มทุนขนาดใหญ่หรือทุนผูกขาด ทุนข้ามชาติ
7. สนับสนุนให้มีการดำเนินกิจการสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อบริการสาธารณะทั้งในระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และระดับชุมชนที่ไม่ดำเนินการเพื่อธุรกิจและผลกำไรภายใต้การดูแลขององค์กรอิสระ ด้วยการสนับสนุนและปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐ
8. มีการส่งเสริมเทคโนโลยี ทั้งเพื่อการผลิต (Produce) การแพร่กระจาย (Broadcast) การดำเนินการด้านเครือข่ายหรือโครงข่าย (Network) เพื่อเพิ่มขยายช่องทางการรับส่งสัญญาณและข้อมูล รวมทั้งเพื่อการรับสารหรือสัญญาณ (Receive ) ของประชาชน ที่มีประสิทธิภาพทางเทคนิคและการเข้าถึงอย่างสะดวกและหลากหลาย คือ ทั้งในระดับระหว่างประเทศ ในประเทศ ในภูมิภาค ในท้องถิ่น และในชุมชน
9. เพื่อให้การปฏิรูปสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์บรรลุตามภารกิจที่ได้รับ มอบหมาย คณะกรรมการฯ จึงดำเนินการจัดทำแผนแม่บทฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ประการ คือ
9.1 การจัดสรรคลื่นความถี่และการออกใบอนุญาตอย่างเป็นธรรม
9.2 การกำกับดูแลเนื้อหาที่คำนึงถึงประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นสำคัญ
9.3 การส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพการสื่อสารของประชาชนและสื่อมวลชน
9.4 การใช้พัฒนาการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
9.5 การใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อการพัฒนาสังคมและการเมือง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มกราคม 2551--จบ--