เรื่อง การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551
และการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี 2549/2550
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1. การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551
1.1 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551 ในอัตราตันอ้อยละ 600 บาท ณ ระดับค่าความหวาน 100 ซี.ซี.เอส. อัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย 36.00 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และการกำหนดผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นต้น ที่ 257.14 บาทต่อตันอ้อย
1.2 อนุมัติตามมาตรา 27 (6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ให้กองทุนกู้เงิน (Straight loan) จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มราคาอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราตันละ 62 บาท รวมเป็นเงิน 4,225.30 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน และให้กองทุนจ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อย ซึ่งจะทำให้กองทุนมีภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 17,004.94 ล้านบาท จึงให้ขยายระยะเวลาชำระหนี้ของกองทุนออกไปเป็น 11 ปี (ถึงปี 2561)
1.3 อนุมัติแนวทางการจัดการภาระหนี้ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้ชำระจากรายได้ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเฉลี่ยทั่วประเทศที่สูงเกิน 638 บาทต่อตันอ้อย ส่วนที่เหลือให้กองทุนเก็บจากชาวไร่อ้อยเพื่อชำระหนี้ต่อไป ในส่วนภาระหนี้ของกองทุนซึ่งมีอยู่ ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 เป็นจำนวน 12,779.64 ล้านบาทให้กองทุนดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส.ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินของกองทุน
1.4 ให้กระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายส่งเสริมการนำอ้อยและกากน้ำตาลไปผลิตเป็นพลังงานทดแทน ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
2. การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550
2.1 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 เป็นรายเขต โดยมีราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 702.19 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. อัตราขึ้นลงของราคาอ้อย 42.13 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นสุดท้าย เฉลี่ยทั่วประเทศ ที่ 300.94 บาทต่อตันอ้อย
2.2 เห็นชอบการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นต้นและขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 จำนวน 9,948,317,513.19 บาท
2.3 จัดหาเงินสมทบการชดเชยให้กองทุน จำนวน 5,277,477,395.42 บาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาดำเนินการจัดหาเงินกู้ให้กับกองทุนตามจำนวนดังกล่าวไปก่อน แล้วตั้งงบประมาณให้กระทรวงอุตสาหกรรมปีละ 450 ล้านบาท เป็นเวลา 11 ปี และชำระจำนวนที่เหลือในปีที่ 12 โดยให้เริ่มจัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เพื่อชำระหนี้ ทั้งนี้ ให้กองทุนรับภาระในส่วนของดอกเบี้ย
2.4 ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาการอนุโลมให้โรงงานชำระภาษีเงินได้ในส่วนของเครดิต โรงงาน จำนวน 2,984,495,253.96 บาท เมื่อได้รับเงินคืนจากกองทุนแล้ว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มกราคม 2551--จบ--
และการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี 2549/2550
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1. การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551
1.1 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551 ในอัตราตันอ้อยละ 600 บาท ณ ระดับค่าความหวาน 100 ซี.ซี.เอส. อัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย 36.00 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และการกำหนดผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นต้น ที่ 257.14 บาทต่อตันอ้อย
1.2 อนุมัติตามมาตรา 27 (6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ให้กองทุนกู้เงิน (Straight loan) จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มราคาอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราตันละ 62 บาท รวมเป็นเงิน 4,225.30 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน และให้กองทุนจ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อย ซึ่งจะทำให้กองทุนมีภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 17,004.94 ล้านบาท จึงให้ขยายระยะเวลาชำระหนี้ของกองทุนออกไปเป็น 11 ปี (ถึงปี 2561)
1.3 อนุมัติแนวทางการจัดการภาระหนี้ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้ชำระจากรายได้ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเฉลี่ยทั่วประเทศที่สูงเกิน 638 บาทต่อตันอ้อย ส่วนที่เหลือให้กองทุนเก็บจากชาวไร่อ้อยเพื่อชำระหนี้ต่อไป ในส่วนภาระหนี้ของกองทุนซึ่งมีอยู่ ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 เป็นจำนวน 12,779.64 ล้านบาทให้กองทุนดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส.ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินของกองทุน
1.4 ให้กระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายส่งเสริมการนำอ้อยและกากน้ำตาลไปผลิตเป็นพลังงานทดแทน ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
2. การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550
2.1 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 เป็นรายเขต โดยมีราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 702.19 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. อัตราขึ้นลงของราคาอ้อย 42.13 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นสุดท้าย เฉลี่ยทั่วประเทศ ที่ 300.94 บาทต่อตันอ้อย
2.2 เห็นชอบการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นต้นและขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 จำนวน 9,948,317,513.19 บาท
2.3 จัดหาเงินสมทบการชดเชยให้กองทุน จำนวน 5,277,477,395.42 บาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาดำเนินการจัดหาเงินกู้ให้กับกองทุนตามจำนวนดังกล่าวไปก่อน แล้วตั้งงบประมาณให้กระทรวงอุตสาหกรรมปีละ 450 ล้านบาท เป็นเวลา 11 ปี และชำระจำนวนที่เหลือในปีที่ 12 โดยให้เริ่มจัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เพื่อชำระหนี้ ทั้งนี้ ให้กองทุนรับภาระในส่วนของดอกเบี้ย
2.4 ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาการอนุโลมให้โรงงานชำระภาษีเงินได้ในส่วนของเครดิต โรงงาน จำนวน 2,984,495,253.96 บาท เมื่อได้รับเงินคืนจากกองทุนแล้ว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มกราคม 2551--จบ--