คณะรัฐมนตรีเห็นชอบประเด็นวาระเพื่อเด็กและเยาวชนปี 2551 รวม 5 ด้าน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอว่า เพื่อให้การจัดทำวาระเพื่อเด็กและเยาวชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำวาระเพื่อเด็กและเยาวชน โดยมี นายยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ เป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมให้มีการจัดทำวาระเด็กและเยาวชน ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการประชุมและประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเด็กและเยาวชน และผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จัดเวทีระดมความคิดเพื่อเสนอเป็นประเด็นวาระเพื่อเด็กและเยาวชน ปี 2551 เช่น สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สภานักเรียน รวมทั้งกลุ่มเด็กและเยาวชนทั่วไปจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ และจากการระดมความคิดดังกล่าวสรุปผลได้ว่า ประเด็นวาระเพื่อเด็กและเยาวชน ปี 2551 ควรใช้ประเด็น 5 ด้าน เช่นเดียวกับปี 2550 เนื่องจากเป็นประเด็นนโยบายหลักสำคัญที่มีผลต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมอื่น ๆ ของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ในแต่ละประเด็นได้มีข้อเสนอที่ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ มาตรการ/แนวทาง ที่ก้าวหน้าและต่างจากปี 2550 อย่างชัดเจนดังนี้
1. ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเด็กและเยาวชนที่หลากหลายทำให้เกิดคุณลักษณะที่ดี ตลอดจนมีส่วนร่วมกับชุมชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม โดยรัฐบาลจะจัดให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เด็กและเยาวชนคิด วางแผน ดำเนินการเองอย่างต่อเนื่อง และสร้างกลไกที่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนอันประกอบด้วย ระบบที่ปรึกษา ระบบการจัดสรรทรัพยากร ระบบการเชื่อมประสานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนในทุกท้องถิ่น
2. ส่งเสริมสถาบันครอบครัว เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ของครอบครัวในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐบาลกำหนดให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างการเรียนรู้และการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวภายในหน่วยงาน และจัดให้มีสมัชชาครอบครัวระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ ที่เน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของครอบครัวหรือภาคีทำงานด้านครอบครัว จนสามารถเกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมครอบครัวในระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด และระดับชาติ
3. ส่งเสริมสื่อเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อให้เกิดรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว โดยรัฐบาลจะประสานร่วมกับรัฐวิสาหกิจในการดำเนินการพิจารณาหาแนวทางในการสนับสนุนรายการเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว และดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการให้เกิดการพัฒนาระบบการจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการจัดทำมาตรการทางภาษีในการส่งเสริมการประกอบการด้านสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีระบบการส่งเสริมการลงทุนให้กับร้านเกมคาเฟ่ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
4. จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดอบายมุข โดยรัฐบาลจะส่งเสริมให้เกิดจังหวัดต้นแบบอย่างน้อยภาคละ 1 จังหวัด ที่มุ่งเน้นการลดปัญหาปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาวะ มีการส่งเสริมการเรียนรู้ การส่งเสริมพื้นที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในกิจกรรมต่าง ๆ ให้เต็มตามศักยภาพ
5. ส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ เพื่อให้เด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสสำคัญในการเรียนรู้ด้านเชาว์ปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ โดยรัฐบาลจะประสานบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีมาตรฐานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มกราคม 2551--จบ--
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอว่า เพื่อให้การจัดทำวาระเพื่อเด็กและเยาวชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำวาระเพื่อเด็กและเยาวชน โดยมี นายยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ เป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมให้มีการจัดทำวาระเด็กและเยาวชน ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการประชุมและประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเด็กและเยาวชน และผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จัดเวทีระดมความคิดเพื่อเสนอเป็นประเด็นวาระเพื่อเด็กและเยาวชน ปี 2551 เช่น สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สภานักเรียน รวมทั้งกลุ่มเด็กและเยาวชนทั่วไปจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ และจากการระดมความคิดดังกล่าวสรุปผลได้ว่า ประเด็นวาระเพื่อเด็กและเยาวชน ปี 2551 ควรใช้ประเด็น 5 ด้าน เช่นเดียวกับปี 2550 เนื่องจากเป็นประเด็นนโยบายหลักสำคัญที่มีผลต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมอื่น ๆ ของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ในแต่ละประเด็นได้มีข้อเสนอที่ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ มาตรการ/แนวทาง ที่ก้าวหน้าและต่างจากปี 2550 อย่างชัดเจนดังนี้
1. ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเด็กและเยาวชนที่หลากหลายทำให้เกิดคุณลักษณะที่ดี ตลอดจนมีส่วนร่วมกับชุมชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม โดยรัฐบาลจะจัดให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เด็กและเยาวชนคิด วางแผน ดำเนินการเองอย่างต่อเนื่อง และสร้างกลไกที่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนอันประกอบด้วย ระบบที่ปรึกษา ระบบการจัดสรรทรัพยากร ระบบการเชื่อมประสานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนในทุกท้องถิ่น
2. ส่งเสริมสถาบันครอบครัว เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ของครอบครัวในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐบาลกำหนดให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างการเรียนรู้และการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวภายในหน่วยงาน และจัดให้มีสมัชชาครอบครัวระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ ที่เน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของครอบครัวหรือภาคีทำงานด้านครอบครัว จนสามารถเกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมครอบครัวในระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด และระดับชาติ
3. ส่งเสริมสื่อเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อให้เกิดรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว โดยรัฐบาลจะประสานร่วมกับรัฐวิสาหกิจในการดำเนินการพิจารณาหาแนวทางในการสนับสนุนรายการเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว และดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการให้เกิดการพัฒนาระบบการจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการจัดทำมาตรการทางภาษีในการส่งเสริมการประกอบการด้านสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีระบบการส่งเสริมการลงทุนให้กับร้านเกมคาเฟ่ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
4. จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดอบายมุข โดยรัฐบาลจะส่งเสริมให้เกิดจังหวัดต้นแบบอย่างน้อยภาคละ 1 จังหวัด ที่มุ่งเน้นการลดปัญหาปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาวะ มีการส่งเสริมการเรียนรู้ การส่งเสริมพื้นที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในกิจกรรมต่าง ๆ ให้เต็มตามศักยภาพ
5. ส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ เพื่อให้เด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสสำคัญในการเรียนรู้ด้านเชาว์ปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ โดยรัฐบาลจะประสานบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีมาตรฐานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มกราคม 2551--จบ--