คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
1. กำหนดบทนิยาม “ส่วนราชการ” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐไม่ว่าในฝ่ายพลเรือน ทหารหรือตำรวจที่มีกฎหมายกำหนดให้มีฐานะหรือเรียกว่าส่วนราชการ
2. กำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ใช้บังคับกับการเทียบตำแหน่งของข้าราชการกับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่ากรมที่มีกฎหมายกำหนดให้มีองค์กรทำหน้าที่ในการเทียบตำแหน่งหรือวินิจฉัยชี้ขาดไว้เป็นการเฉพาะ
3. การพิจารณาเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี อย่างน้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
3.1 เป็นตำแหน่งที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือตามกฎหมายอื่น
3.2 เป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของข้าราชการในส่วนราชการ ไม่ว่าส่วนราชการนั้นจะมีฐานะเป็นนิติบุคคลหรือไม่
3.3 เป็นตำแหน่งประเภทบริหารที่มีกฎหมายกำหนดให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งสำหรับการปฏิบัติหน้าที่นั้น และมีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายในการบังคับบัญชาและบริหารงาน บริหารบุคคล และบริหารงบประมาณของส่วนราชการนั้น ซึ่งไม่รวมถึงหน้าที่และอำนาจในฐานะผู้รับมอบอำนาจ
4. กำหนดให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคลตามกฎหมายของแต่ละส่วนราชการ ไปวางระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดีสำหรับใช้กับข้าราชการในส่วนราชการของตนภายใต้หลักเกณฑ์ตามข้อ 2.
5. กำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการเทียบตำแหน่ง ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน และให้ข้าราชการในสำนักงาน ก.พ. คนหนึ่งเป็นเลขานุการ โดยมีหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการเทียบตำแหน่งและกำหนดหลักเกณฑ์กลางสำหรับเป็นแนวทางโดยไม่ขัดต่อร่างพระราชบัญญัตินี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 ธันวาคม 2561--