คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคารสำหรับอาคารที่เริ่มก่อสร้างในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เสนอให้คณะกรรมการควบคุมอาคารพิจารณาทบทวนและแก้ไขร่างกฎกระทรวงดังกล่าวตามข้อพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พร้อมกับได้พิจารณายกร่างใหม่ ซึ่งยังคงหลักการเช่นเดียวกับหลักการในร่างกฎกระทรวงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ในร่างกฎกระทรวงที่เสนอจะไม่มีคำว่ายกเว้นหรือผ่อนผันแต่จะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต ซึ่งเป็นไปตามอำนาจในมาตรา 8 (12) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543
2. กำหนดให้ใช้กฎเกณฑ์ตามที่เคยได้รับอนุญาตไว้เดิมโดยไม่มีการกำหนดมิให้นำบทบัญญัติใดในกฎกระทรวงมาใช้บังคับ ซึ่งความดังกล่าวเป็นทำนองเดียวกับข้อ 6 / 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2528) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 57 (พ.ศ. 2544) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ทั้งกำหนดให้มีเอกสารรับรองการตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่ก่อสร้างค้างไว้ของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ระดับวุฒิวิศวกรว่า มีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัยในการที่จะทำการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต่อไปได้แนบประกอบคำขออนุญาตด้วย ซึ่งจะทำให้อาคารที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างต่อไปได้นั้น มีความปลอดภัย
3. ในร่างกฎกระทรวงที่เสนอจะไม่มีการกำหนดประเภทอาคารไว้ ทำให้อาคารทุกประเภทที่ประสบปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่กำหนดจะได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน
จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตสำหรับอาคารที่เริ่มก่อสร้างในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มกราคม 2551--จบ--
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เสนอให้คณะกรรมการควบคุมอาคารพิจารณาทบทวนและแก้ไขร่างกฎกระทรวงดังกล่าวตามข้อพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พร้อมกับได้พิจารณายกร่างใหม่ ซึ่งยังคงหลักการเช่นเดียวกับหลักการในร่างกฎกระทรวงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ในร่างกฎกระทรวงที่เสนอจะไม่มีคำว่ายกเว้นหรือผ่อนผันแต่จะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต ซึ่งเป็นไปตามอำนาจในมาตรา 8 (12) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543
2. กำหนดให้ใช้กฎเกณฑ์ตามที่เคยได้รับอนุญาตไว้เดิมโดยไม่มีการกำหนดมิให้นำบทบัญญัติใดในกฎกระทรวงมาใช้บังคับ ซึ่งความดังกล่าวเป็นทำนองเดียวกับข้อ 6 / 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2528) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 57 (พ.ศ. 2544) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ทั้งกำหนดให้มีเอกสารรับรองการตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่ก่อสร้างค้างไว้ของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ระดับวุฒิวิศวกรว่า มีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัยในการที่จะทำการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต่อไปได้แนบประกอบคำขออนุญาตด้วย ซึ่งจะทำให้อาคารที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างต่อไปได้นั้น มีความปลอดภัย
3. ในร่างกฎกระทรวงที่เสนอจะไม่มีการกำหนดประเภทอาคารไว้ ทำให้อาคารทุกประเภทที่ประสบปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่กำหนดจะได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน
จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตสำหรับอาคารที่เริ่มก่อสร้างในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มกราคม 2551--จบ--