คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารรายงาน สรุปสภาวะอากาศทั่วไปใน รอบสัปดาห์และการพยากรณ์อากาศ ดังนี้
ในช่วงวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2548 กระแสลมตะวันออกและกระแสลมตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัดพาความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทย ยังคงส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนตกได้ในหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2548 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่เสริมเข้าปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป โดยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดบริเวณยอดเขาสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ในการนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศและแจ้งเตือนประชาชนได้ทราบมาเป็นระยะ
สำหรับการคาดหมายลักษณะอากาศที่สำคัญในช่วง วันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2548 มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 21-25 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะยังแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่พัดมาจากพื้นดินที่มีอากาศเย็นและแห้ง ลักษณะดังกล่าว ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีอากาศหนาวถึงหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีอากาศหนาวจัดบริเวณเทือกเขาสูงบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ส่วนภาคใต้ตอนบนเหนือจังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมาจะมีฝนลดน้อยลง โดยฝนจะไปตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักได้ในบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่บริเวณที่ลุ่มใกล้ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหล สำหรับอ่าวไทยจะยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ได้ในช่วงวันที่ 21-26 พฤศจิกายน 2548 หลังจากวันที่ 26 พฤศจิกายน 2548 บริเวณความกดอากาศสูงจะอ่อนกำลังลงทำให้คลื่นลมมีกำลังอ่อนลง และประเทศไทยตอนบนกลับมีอากาศอุ่นขึ้น สำหรับภาคใต้จะยังคงมีฝนตกหนาแน่นในพื้นที่ของจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสต่อไปได้อีก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548--จบ--
ในช่วงวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2548 กระแสลมตะวันออกและกระแสลมตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัดพาความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทย ยังคงส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนตกได้ในหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2548 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่เสริมเข้าปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป โดยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดบริเวณยอดเขาสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ในการนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศและแจ้งเตือนประชาชนได้ทราบมาเป็นระยะ
สำหรับการคาดหมายลักษณะอากาศที่สำคัญในช่วง วันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2548 มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 21-25 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะยังแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่พัดมาจากพื้นดินที่มีอากาศเย็นและแห้ง ลักษณะดังกล่าว ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีอากาศหนาวถึงหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีอากาศหนาวจัดบริเวณเทือกเขาสูงบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ส่วนภาคใต้ตอนบนเหนือจังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมาจะมีฝนลดน้อยลง โดยฝนจะไปตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักได้ในบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่บริเวณที่ลุ่มใกล้ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหล สำหรับอ่าวไทยจะยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ได้ในช่วงวันที่ 21-26 พฤศจิกายน 2548 หลังจากวันที่ 26 พฤศจิกายน 2548 บริเวณความกดอากาศสูงจะอ่อนกำลังลงทำให้คลื่นลมมีกำลังอ่อนลง และประเทศไทยตอนบนกลับมีอากาศอุ่นขึ้น สำหรับภาคใต้จะยังคงมีฝนตกหนาแน่นในพื้นที่ของจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสต่อไปได้อีก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548--จบ--