แท็ก
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2551 ซึ่งเป็นการสรุปและประเมินผลการดำเนินการของ ครส. ในภาพรวม ตามที่คณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ประธาน ครส. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ ดังนี้
1.1 ขอบคุณกรรมการทุกท่าน ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
1.2 จากผลการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนร้อยละ 74.45 ทำให้เห็นว่าการดำเนินงานของ ครส. ประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เนื่องจากทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการดำเนินงาน
1.3 การแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนจึงต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่ง ครส. และทุกภาคส่วนก็ได้สร้างจุดเริ่มต้นที่ดีและเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่มีความสำคัญและจะต้องทำให้เกิดความร่วมมือกันต่อไปในอนาคต
2. สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 โดย รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการการมีส่วนร่วม (นายภุชงค์ นุตราวงศ์) ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบตามข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2550 สรุปได้ ดังนี้
2.1 มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 32,759,009 คน คิดเป็นร้อยละ 74.45 มีบัตรเสียของการเลือกตั้งแบบสัดส่วนร้อยละ 5.57 บัตรเสียของการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตร้อยละ 2.55 ซึ่งเป็นจำนวนไม่มาก สำหรับการเลือกตั้งแบบสัดส่วนจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คือ จังหวัดลำพูน มีผู้ไปใช้สิทธิร้อยละ 88.90 จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุด คือ จังหวัดสกลนคร มีผู้ไปใช้สิทธิ ร้อยละ 66.73 ส่วนการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คือ จังหวัดลำพูน มีผู้ไปใช้สิทธิร้อยละ 88.90 จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร มีผู้ไปใช้สิทธิ์ ร้อยละ 66.81 สำหรับผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศมีจำนวนประมาณ 50,000 คน ซึ่งสูงกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา
2.2 พรรคการเมือง และ ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด 2 ลำดับแรก คือ พรรคพลังประชาชน แบบสัดส่วน 34 ที่นั่ง แบบแบ่งเขต 199 ที่นั่ง รวม 233 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ แบบสัดส่วน 33 ที่นั่ง แบบแบ่งเขต 132 ที่นั่ง รวม 165 ที่นั่ง ทั้งนี้ กกต. จะประกาศรับรองผลภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันเลือกตั้ง (4 มกราคม 2551) โดยที่ไม่มีผู้ร้องเรียนคัดค้าน ซึ่งจากจำนวน ส.ส. แบบสัดส่วนและแบ่งเขตทั่วประเทศ รวม 480 คน กกต. ประกาศรับรองไปแล้ว 391 คน ส่วนที่เหลือกำลังพิจารณา หากมีผู้ร้องเรียนร้องคัดค้าน กกต.จะพิจารณาดำเนินการต่อไป แต่หากมีกรณีสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะดำเนินการภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 กำหนดให้มีการประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายใน 30 วัน (22 มกราคม 2551)
2.3 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งจำนวน 88,500 หน่วย และมีนักเรียนและลูกเสืออาสาของ กกต. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาช่วยเหลือผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้พิการ และผู้สูงอายุด้วย
3. รายงานผลการดำเนินการของ ครส. ประจำปี 2550 ฝ่ายเลขานุการ ครส. ได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของ ครส.ประจำปี 2550 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
3.1 ปรากฎการณ์ทางการเมืองไทย
3.2 รัฐบาลกับการประกาศระเบียบวาระแห่งชาติ
3.3 เป้าหมายของ ครส.
3.4 การกำหนดยุทธศาสตร์และกลยุทธ์หลักในการดำเนินงานของ ครส.
3.5 การกำหนดแผนงาน โครงการ และกิจกรรมการรณรงค์ของ ครส.
3.6 การดำเนินการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงของคณะอนุกรรมการ
3.7 การติดตามและประเมินผลการรณรงค์
3.8 ข้อสังเกต ปัญหา และข้อเสนอแนะ
3.9 สรุป
ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ซึ่งมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตรจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) เป็นประธาน กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการได้รายงานผลการดำเนินการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงให้ที่ประชุมทราบ และฝ่ายเลขานุการได้รวบรวมไว้ในรายงานผลการดำเนินการของ ครส. ประจำปี 2550 ตามข้อ 3 แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 มกราคม 2551--จบ--
1. ประธาน ครส. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ ดังนี้
1.1 ขอบคุณกรรมการทุกท่าน ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง
1.2 จากผลการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนร้อยละ 74.45 ทำให้เห็นว่าการดำเนินงานของ ครส. ประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เนื่องจากทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการดำเนินงาน
1.3 การแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนจึงต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่ง ครส. และทุกภาคส่วนก็ได้สร้างจุดเริ่มต้นที่ดีและเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่มีความสำคัญและจะต้องทำให้เกิดความร่วมมือกันต่อไปในอนาคต
2. สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 โดย รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการการมีส่วนร่วม (นายภุชงค์ นุตราวงศ์) ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบตามข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2550 สรุปได้ ดังนี้
2.1 มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 32,759,009 คน คิดเป็นร้อยละ 74.45 มีบัตรเสียของการเลือกตั้งแบบสัดส่วนร้อยละ 5.57 บัตรเสียของการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตร้อยละ 2.55 ซึ่งเป็นจำนวนไม่มาก สำหรับการเลือกตั้งแบบสัดส่วนจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คือ จังหวัดลำพูน มีผู้ไปใช้สิทธิร้อยละ 88.90 จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุด คือ จังหวัดสกลนคร มีผู้ไปใช้สิทธิ ร้อยละ 66.73 ส่วนการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คือ จังหวัดลำพูน มีผู้ไปใช้สิทธิร้อยละ 88.90 จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร มีผู้ไปใช้สิทธิ์ ร้อยละ 66.81 สำหรับผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศมีจำนวนประมาณ 50,000 คน ซึ่งสูงกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา
2.2 พรรคการเมือง และ ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด 2 ลำดับแรก คือ พรรคพลังประชาชน แบบสัดส่วน 34 ที่นั่ง แบบแบ่งเขต 199 ที่นั่ง รวม 233 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ แบบสัดส่วน 33 ที่นั่ง แบบแบ่งเขต 132 ที่นั่ง รวม 165 ที่นั่ง ทั้งนี้ กกต. จะประกาศรับรองผลภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันเลือกตั้ง (4 มกราคม 2551) โดยที่ไม่มีผู้ร้องเรียนคัดค้าน ซึ่งจากจำนวน ส.ส. แบบสัดส่วนและแบ่งเขตทั่วประเทศ รวม 480 คน กกต. ประกาศรับรองไปแล้ว 391 คน ส่วนที่เหลือกำลังพิจารณา หากมีผู้ร้องเรียนร้องคัดค้าน กกต.จะพิจารณาดำเนินการต่อไป แต่หากมีกรณีสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะดำเนินการภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 กำหนดให้มีการประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายใน 30 วัน (22 มกราคม 2551)
2.3 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งจำนวน 88,500 หน่วย และมีนักเรียนและลูกเสืออาสาของ กกต. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาช่วยเหลือผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้พิการ และผู้สูงอายุด้วย
3. รายงานผลการดำเนินการของ ครส. ประจำปี 2550 ฝ่ายเลขานุการ ครส. ได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของ ครส.ประจำปี 2550 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
3.1 ปรากฎการณ์ทางการเมืองไทย
3.2 รัฐบาลกับการประกาศระเบียบวาระแห่งชาติ
3.3 เป้าหมายของ ครส.
3.4 การกำหนดยุทธศาสตร์และกลยุทธ์หลักในการดำเนินงานของ ครส.
3.5 การกำหนดแผนงาน โครงการ และกิจกรรมการรณรงค์ของ ครส.
3.6 การดำเนินการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงของคณะอนุกรรมการ
3.7 การติดตามและประเมินผลการรณรงค์
3.8 ข้อสังเกต ปัญหา และข้อเสนอแนะ
3.9 สรุป
ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ซึ่งมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตรจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) เป็นประธาน กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการได้รายงานผลการดำเนินการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงให้ที่ประชุมทราบ และฝ่ายเลขานุการได้รวบรวมไว้ในรายงานผลการดำเนินการของ ครส. ประจำปี 2550 ตามข้อ 3 แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 มกราคม 2551--จบ--