คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก เพื่อชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน (เดือนมกราคม - มิถุนายน 2562) ภายในกรอบวงเงิน 14,622,000 บาท โดยให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 แผนงานยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร งบเงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนเพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้แก่สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2560/2561 ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ยืนยันว่าได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และมีงบประมาณเหลือจ่าย จึงไม่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณ ตามนัยมาตรา 27 และมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติพายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2562 เป็นต้นมา ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรและผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรจำนวน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดระนอง จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดตราด ได้รับความเสียหาย กษ. (กรมส่งเสริมสหกรณ์) ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งพื้นที่การเกษตรเสียหายจะส่งผลให้ไม่มีรายได้ในการเลี้ยงชีพ และไม่สามารถส่งชำระหนี้ให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรได้ จึงได้จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือในส่วนของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าว โดยมีรายละเอียดโครงการ ดังนี้
หัวข้อ / รายละเอียด
1. วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุนของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากพายุโซนร้อนปาบึก
2. เป้าหมาย
สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึก (ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2562 เป็นต้นมา) สมาชิกจำนวน 6,868 ราย ในพื้นที่ 9 จังหวัด ในภาคใต้และภาคตะวันออก (จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาและจังหวัดสุราษฎร์ธานี) มูลหนี้ต้นเงินกู้รวม 974.8028 ล้านบาท
3. คุณสมบัติสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร
3.1 เป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่สมาชิกประกอบอาชีพการเกษตร และเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเกษตรได้รับความเสียหายด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ และมีพื้นที่ทำกินที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึกและพื้นที่การเกษตร/ผลผลิตได้รับความเสียหาย
3.2 สมาชิกหรือคู่สมรสต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2561 และประกอบกิจกรรมการเกษตรในช่วงที่ผ่านมา ตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลเกษตรแต่ละด้านของ กษ. ตามประเภทการผลิตของตนก่อนเกิดภัยพิบัติ เช่น ปลูกพืช (กรมส่งเสริมการเกษตร) เลี้ยงสัตว์ (กรมปศุสัตว์) หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (กรมประมง) เป็นต้น การให้ความช่วยเหลือหากเกษตรกรรายใดได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ด้าน ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียง 1 ด้าน โดยยึดการให้ความช่วยเหลือ 1 สัญญาต่อ 1 ครัวเรือน
3.3 มีสัญญาเงินกู้เพื่อการผลิตทางการเกษตรปี 2561 โดยต้องเป็นสัญญาเงินกู้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ประสบภัยของสมาชิกตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่นั้น ๆ และได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากพายุโซนร้อนปาบึก
4. คุณสมบัติสหกรณ์/กลุ่มเกษตร
4.1 เป็นสหกรณ์ภาคการเกษตร สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่สมาชิกประกอบอาชีพการเกษตรและกลุ่มเกษตรกรที่สมาชิกประกอบอาชีพการเกษตร ได้รับความเสียหายด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ และสมาชิกมีพื้นที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึกและพื้นที่การเกษตร/ผลผลิตได้รับความเสียหาย
4.2 ตรวจสอบสัญญาเงินกู้ของสมาชิกที่ขอรับการชดเชยจะต้องเป็นสัญญาเงินกู้ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่โครงการกำหนด และต้องไม่เป็นสัญญาเงินกู้ที่เคยได้รับการช่วยเหลือในโครงการหรือมาตรการอื่นจากภาครัฐให้ความช่วยเหลือในลักษณะเดียวกันมาก่อน
5. วิธีการดำเนินการ
5.1 สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่สมาชิกมีพื้นที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึก และพื้นที่การเกษตร/ผลผลิตได้รับความเสียหาย ตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกที่ขอรับการช่วยเหลือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่โครงการกำหนดให้ครบถ้วน โดยให้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรพิจารณาอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ มีมติขอเบิกเงินชดเชยดอกเบี้ยตามมาตรการ และจัดส่งเอกสารประกอบการขอเบิกเงินชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการฯ ไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดภายในระยะเวลาที่กำหนด
5.2 เงินที่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรให้กู้ยืมเป็นเงินกู้ที่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรจัดหาจากแหล่งทุนต่าง ๆ เช่น จากทุนสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเอง (จากเงินฝากหรือเงินค่าหุ้น) เงินกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือเงินยืมจากแหล่งกู้ยืมอื่น ชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรคำนวณดอกเบี้ยที่ขอรับการชดเชยนับถัดจากวันที่ประสบภัยของสมาชิกตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึก พื้นที่จนกว่าจะชำระคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 6 เดือน
5.3 ให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรวจสอบเอกสารประกอบการเบิกจ่ายและคำนวณดอกเบี้ยให้ครบถ้วน ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในโครงการที่กำหนดแล้วรายงานขอเบิกเงินชดเชยดอกเบี้ยของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์
5.4 กรมส่งเสริมสหกรณ์โอนเงินชดเชยดอกเบี้ยให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเพื่อเบิกจ่ายชดเชยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรต่อไป
5.5 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแจ้งโอนเงินชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรตามที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารประกอบการขอเบิกเงินชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการฯ
5.6 เมื่อมีการเบิกจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยตามมาตรการ ให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดรายงานผลการเบิกจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยตามมาตรการไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ทราบทุกครั้ง
6. ระยะเวลาดำเนินการ
6 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2562)
กิจกรรม / ช่วงเวลา
1. สำรวจข้อมูลสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก / เดือนมกราคม 2562
2. เสนอขอความเห็นชอบโครงการฯ / เดือนกุมภาพันธ์ 2562
3. สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกที่ขอรับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของโครงการฯ / เดือนมีนาคม 2562
4. สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรจัดส่งเอกสารประกอบการเบิกเงินชดเชยดอกเบี้ยไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัด / เดือนมีนาคม - เมษายน 2562
5. สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของโครงการ / เดือนมีนาคม - เมษายน 2562
6. สำนักงานสหกรณ์จังหวัดโอนเงินชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร / เดือนมีนาคม - เมษายน 2562
7. สำนักงานสหกรณ์จังหวัดรายงานผลการเบิกจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ / เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2562
8. สรุปและประเมินผลโครงการ / เดือนมิถุนายน 2562
7. ประโยชน์ที่ได้รับ
สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำการเกษตรและผลผลิตได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึกสามารถบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุนของสมาชิก จำนวน 6,868 ราย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มีนาคม 2562--