คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง ขออนุมัติดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนาปี 2561/62 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ แล้วมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (สงป.) ดังนี้
1. อนุมัติให้ กษ. ดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังฤดูกาลทำนา (พืชไร่และพืชผัก) จำนวน 4.87 ล้านไร่ ช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงในอัตราไร่ละ 600 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ โดยใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการคลัง (กค.) อนุมัติให้กันเงินเบิกเหลื่อมปีถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม 2562 ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน 2,922 ล้านบาท ทั้งนี้ การสนับสนุนปัจจัยการผลิตไร่ละ 600 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ เป็นการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลางในลักษณะ งบดำเนินงาน ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบความเหมาะสมของอัตราค่าใช้จ่ายจาก กค. ก่อนตามนัยข้อ 3 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559 และให้ขอทำความตกลงกับ สงป. ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2560 ต่อไป
2. ค่าใช้จ่ายในส่วนของ ธ.ก.ส. ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและค่าธรรมเนียมโอนเงิน ในกรอบวงเงิน 2.2729 ล้านบาท ให้ ธ.ก.ส. เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไปตามผลการจ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง
3. สำหรับค่าใช้จ่ายบริหารโครงการ ได้แก่ ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายในการยืนยันสิทธิ์และออกใบรับรอง และค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ/รับรองพื้นที่ให้ผลผลิต เป็นต้น ในกรอบวงเงิน 8.1546 ล้านบาท ให้กรมส่งเสริมการเกษตรปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จากผลผลิต/โครงการ/กิจกรรม หรือรายการ ที่คาดว่ามีงบประมาณเหลือจ่ายหรือจากรายการที่มีผลการดำเนินการล่าช้ากว่าแผน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบริหารโครงการต่อไป
1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการน้ำที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบน้ำ) และการบริหารจัดการศัตรูพืชสูงกว่าฤดูกาลปกติ โดยเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืช อื่น ๆ ในนา เช่น พืชไร่ พืชผัก พืชใช้น้ำน้อย (ยกเว้นอ้อยและสับปะรด) ช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงในอัตราไร่ละ 600 บาท โดยจะช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรดังกล่าวครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 พื้นที่ ดังนี้
พื้นที่ / ช่วงที่ทำการเพาะปลูก / ช่วงการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
1. พื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
(ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ได้แก่ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อ่างทองสุพรรณบุรี นครปฐม นนทบุรีและปทุมธานี)
- 1 พฤศจิกายน 2561- 31 มีนาคม 2562
- ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
2. พื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งและภาคใต้
- 1 พฤศจิกายน 2561 –30 เมษายน 2562
- ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2562
3. พื้นที่ภาคใต้
- 1 มีนาคม – 15 มิถุนายน 2562
- ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2562
ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่เดือนมีนาคม - กันยายน 2562
2. วิธีการดำเนินการ
2.1 หลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 และจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
(1) เกษตรกรต้องมีสัญชาติไทย และบรรลุนิติภาวะแล้ว
(2) เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (1 ครัวเรือน ต่อ 1 สิทธิ์) ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 กับกรมส่งเสริมการเกษตร
- พื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง จะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
- พื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง และภาคใต้ จะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2562
- พื้นที่ภาคใต้ จะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2562
(3) เป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559 - 2561) ปีใดปีหนึ่ง และพื้นที่เข้าร่วมต้องเป็นพื้นที่นาเท่านั้น ตั้งแต่ 1 งาน ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 15 ไร่
(4) เป็นเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ที่ทำการเพาะปลูก พืชไร่ พืชผัก พืชอาหารสัตว์ และพืชปรับปรุงบำรุงดิน ยกเว้นอ้อยและสับปะรด
(5) เกษตรกรที่ปลูกพืชหลังนามากกว่า 1 ชนิด สามารถเลือกชนิดพืชในการขอรับการช่วยเหลือ แต่พื้นที่รวมกันต้องไม่เกิน 15 ไร่/ครัวเรือน
(6) กรณีเกษตรกรปลูกพืชอายุสั้นที่มีการเพาะปลูกหลายรอบการผลิตในพื้นที่เดียวกัน เช่น พืชผัก สามารถเข้าร่วมโครงการขอรับการช่วยเหลือได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
(7) เป็นเกษตรกรที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับ ธ.ก.ส. หากไม่มีต้องไปเปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส.
(8) สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานเกษตรอำเภอนัดหมายตามความเหมาะสม
2.2 การตรวจสอบรับรองสิทธิ์เกษตรกร
(1) ให้มีคณะทำงานตรวจสอบสิทธิ์ระดับตำบลเป็นผู้ตรวจสอบสิทธิ์
(2) ให้มีคณะกรรมการบริหารโครงการระดับอำเภอเป็นผู้รับรองสิทธิ์
(3) ให้มีคณะกรรมการบริหารโครงการระดับจังหวัดกำกับดูแล และแก้ไขปัญหาการรับรองสิทธิ์ของเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62
2.3 การขอใช้สิทธิ์เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ
(1) กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศรายชื่อเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรให้เกษตรกรตรวจสอบข้อมูล เพื่อแจ้งยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯ
(2) การตรวจสอบสิทธิ์ โดยคณะทำงานตรวจสอบสิทธิ์ ระดับตำบล มีหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์
(3) การรับรองสิทธิ์ โดยคณะกรรมการบริหารโครงการระดับอำเภอ มีหน้าที่รับรองสิทธิ์และบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศของกรมส่งเสริมการเกษตร
(4) กรมส่งเสริมการเกษตรส่งผลการรับรองสิทธิไปยัง ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ตรวจสอบประมวลผลและโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร
3. ระยะเวลาดำเนินการ มีนาคม – กันยายน 2562
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มีนาคม 2562--