โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562

เรื่อง โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม)

1. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ ดังนี้

1.1 อนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ในวงเงิน 24.79 ล้านบาท

1.2 อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ งบเงินอุดหนุน รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ เพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับจัดสรร

1.3 อนุมัติให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีอำนาจอนุมัติจ่ายเงินงบประมาณของโครงการฯ ให้กับ อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติดประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เพื่อนำไปสนับสนุนสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา (เมียนมา) (หน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของเมียนมา) ดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และอนุมัติให้สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้เพื่อการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา โดยขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 215 เป็นกรณีพิเศษ

1.4 รับทราบการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายจากงบประมาณเหลือจ่ายปีงบประมาณ 2562 จำนวน 5.85 ล้านบาท แผนงานบูรณาการป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จำนวน 3 รายการ สำหรับสนับสนุนโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 ดังนี้

รายการที่โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายจากงบประมาณเหลือจ่ายปีงบประมาณ 2562 / งบประมาณเหลือจ่ายฯที่โอนเปลี่ยนแปลงให้กับโครงการฯ

1. งบรายจ่ายอื่น โครงการแก้ไขปัญหาฝิ่น ยาเสพติดและความมั่นคงพื้นที่ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 12.90 ล้านบาท / 1.42

2. งบเงินอุดหนุน รายการเงินอุดหนุนโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน จำนวน 9.55 ล้านบาท / 2.47

3. งบเงินอุดหนุน รายการ เงินอุดหนุนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 194.72 ล้านบาท / 1.96

รวม 5.85

และให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) ให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

2. ในส่วนของการดำเนินการปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้เพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา โดยขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 215 เป็นกรณีพิเศษ นั้น ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวต่อคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้ดจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐตามความนัยมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตามความเห็นของกระทรวงการคลังต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

1. จากการดำเนินโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการ ยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้รับการยอมรับและได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดียิ่งและเห็นพ้องกันว่าโครงการฯ สามารถเพิ่มศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยปฏิบัติของประเทศตน ทำให้สามารถควบคุมยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากขึ้น ดังนั้น เพื่อความต่อเนื่องและความยั่งยืนของโครงการฯ สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณาแล้วเห็นว่า ประเทศไทยควรสนับสนุนงบประมาณให้กับโครงการนี้ต่อไป

2. โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2562 (เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

2.1 วัตถุประสงค์

1) สร้างความพร้อมในการรองรับการปฏิบัติงานภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัยเพื่อการควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2562 – 2565) : กัมพูชา จีน สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม (คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแผนปฏิบัติการร่วมดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562)

2) พัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามการลักลอบผลิตยาเสพติด การสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นให้แก่หน่วยงานด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบผลิตยาเสพติดและการลักลอบค้าเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น พร้อมทั้งเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แหล่งผลิตไปสู่ประเทศต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น

3) สร้างความพร้อมของหน่วยงานประเทศเพื่อนบ้านในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของประเทศตนในการปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น รวมถึงปฏิบัติการด้านการข่าวและการสืบสวนสอบสวน

4) พัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด เพื่อช่วยในการสืบค้น พิสูจน์ทราบถึงแหล่งต้นตอการผลิตอันจะสามารถโยงถึงการปราบปรามทำลายแหล่งผลิต และกลุ่มการผลิต การค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

5) ขยายความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้านในด้านป้องกันยาเสพติด การเสริมสร้างความตระหนักรู้ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และการพัฒนาทางเลือกเพื่อสนับสนุนงานด้านปราบปรามทำให้การแก้ไขปัญหาครอบคลุมและยั่งยืน

6) ส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการปฏิบัติการและการควบคุมปัญหายาเสพติดร่วมกัน

2.2 แผนการดำเนินการ : สนับสนุนการปฏิบัติการเชิงรุกและกิจกรรมของแผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัยเพื่อการควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปีฯ ที่เน้นยุทธศาสตร์การสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและตลอดลำน้ำโขง รวมทั้งดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันและบำบัดรักษา โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้กับเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

2.3 ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านมีศักยภาพและขีดความสามารถในการปราบปรามการลักลอบผลิตยาเสพติด การสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น สามารถสกัดกั้นเคมีภัณฑ์และสารตั้นต้นในประเทศเพื่อนบ้านก่อนเข้าสู่แหล่งผลิตยาเสพติด และปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไม่ให้ออกจากแหล่งผลิตเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยมีจำนวนลดลง

2) หน่วยงานควบคุมยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้มแข็งสามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของประเทศตนในการปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้นต้น รวมถึงปฏิบัติการด้านการข่าว การสืบสวนสอบสวนได้มีมากขึ้น

3) ประเทศเพื่อนบ้านสามารถดำนินมาตรการการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการและสมดุลมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นในการดำเนินงานด้านป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดควบคู่กับการดำเนินงานด้านปราบปราม รวมทั้งประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านมีความตระหนักรู้เท่าทันถึงโทษภัยของยาเสพติด เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาในภูมิภาคนี้ดำเนินไปอย่างสมดุลและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มีนาคม 2562--