เรื่อง ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลและการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลและการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
1. ให้ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552
2. กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดให้มีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลในสังกัด และให้ “ผู้ถูกตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของบุคคล” เป็น “เจ้าของประวัติ” กรอกรายละเอียดในแบบประวัติบุคคล
3. กำหนดให้กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแบบพิมพ์ลายนิ้วมือและประวัติอาชญากร โดยแจ้งผลไปยังหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องโดยตรง และให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาผลการตรวจสอบว่าจะสั่งบรรจุเข้ารับราชการหรือว่าจ้าง หรือให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการเพื่อให้บุคคลนั้นพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
4. ให้เพิ่มองค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน ฝ่ายทหาร หรือฝ่ายตำรวจ แล้วแต่ กรณี ตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลโดยละเอียดเมื่อมีคำขอจากหน่วยงานของรัฐ และในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น องค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน ฝ่ายทหาร หรือฝ่ายตำรวจ แล้วแต่กรณี อาจประสานกับหน่วยงานของรัฐเพื่อดำเนินการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์โดยละเอียดของบุคคลที่จะบรรจุเข้ารับราชการ หรือได้รับการว่าจ้างหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งที่สำคัญ หรือเข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ และทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินได้
5. กำหนดให้มีข้อมูลการตรวจสอบประวัติบุคคลให้สอดคล้องกับปัจจุบันในแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยหรือแบบ รปภ.1 ประวัติบุคคล เพิ่มการตรวจสอบลายนิ้วมือโดยละเอียดในแบบ รปภ.4 ใบรับรองความไว้วางใจ รวมทั้งเปลี่ยนชื่อแบบ รปภ.6 เป็น “บันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่” และแบบ รปภ.7 เป็น “บันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่”
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 พฤษภาคม 2562--