คณะรัฐมนตรีพิจารณามติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติต่อไปตามแนวมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง) และมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550 (เรื่อง สรุปผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ดังนี้
1.1 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543
1.1.1 กำชับข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกประเภท ทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 โดยเคร่งครัดโดยเฉพาะการให้ความร่วมมือช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง รวมทั้งการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทและทุกระดับดังกล่าวด้วย
1.1.2 นับแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง (โยกย้าย) ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทและทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นให้พิจารณาเท่าที่จำเป็น รวมทั้งไม่ควรจัดให้มีฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลาประมาณ 10 วันก่อนวันเลือกตั้ง เพราะอาจจะ กระทบต่ออัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานการเลือกตั้ง
1.2 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550
1.2.1 ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
1.2.2 ให้มีการสนธิกำลังระหว่างทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครด้านความปลอดภัยเพื่อให้การคุ้มครองประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
1.2.3 ขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรและสถานที่จากหน่วยงานของรัฐในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 ให้กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่นให้ความร่วมมือช่วยเหลือและสนับสนุนในการดำเนินการเลือกตั้ง
1.2.4 ให้กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่นให้การสนับสนุนเกี่ยวกับสถานที่ปิดประกาศ และที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถานของรัฐ สถานที่สำหรับให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองใช้ในการโฆษณาหาเสียง และออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ของรัฐสำหรับผู้สมัครและพรรคการเมืองให้เพียงพอและเท่าเทียมกัน
1.2.5 ให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำงบประมาณมาสนับสนุนการเลือกตั้งได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ โดย
2.1 กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาดำเนินการไปได้ตามความเหมาะสม
2.2 กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานเสนอขอตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551--จบ--
1. เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติต่อไปตามแนวมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง) และมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550 (เรื่อง สรุปผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ดังนี้
1.1 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543
1.1.1 กำชับข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกประเภท ทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 โดยเคร่งครัดโดยเฉพาะการให้ความร่วมมือช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง รวมทั้งการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทและทุกระดับดังกล่าวด้วย
1.1.2 นับแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง (โยกย้าย) ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทและทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นให้พิจารณาเท่าที่จำเป็น รวมทั้งไม่ควรจัดให้มีฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลาประมาณ 10 วันก่อนวันเลือกตั้ง เพราะอาจจะ กระทบต่ออัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานการเลือกตั้ง
1.2 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550
1.2.1 ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
1.2.2 ให้มีการสนธิกำลังระหว่างทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครด้านความปลอดภัยเพื่อให้การคุ้มครองประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
1.2.3 ขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรและสถานที่จากหน่วยงานของรัฐในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 ให้กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่นให้ความร่วมมือช่วยเหลือและสนับสนุนในการดำเนินการเลือกตั้ง
1.2.4 ให้กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่นให้การสนับสนุนเกี่ยวกับสถานที่ปิดประกาศ และที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถานของรัฐ สถานที่สำหรับให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองใช้ในการโฆษณาหาเสียง และออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ของรัฐสำหรับผู้สมัครและพรรคการเมืองให้เพียงพอและเท่าเทียมกัน
1.2.5 ให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำงบประมาณมาสนับสนุนการเลือกตั้งได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ โดย
2.1 กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาดำเนินการไปได้ตามความเหมาะสม
2.2 กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานเสนอขอตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551--จบ--