คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 – 3 สิงหาคม 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
การประชุมระดับรัฐมนตรี RCEP
1. ความคืบหน้าของการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP ครั้งที่ 27 (RCEP Trade Negotiating Committee: TNC)
- รับทราบว่า ที่ประชุม RCEP – TNC สามารถสรุปภาคผนวกของบทการค้าบริการได้เพิ่ม 3 ภาคผนวก ได้แก่ โทรคมนาคม การเงิน และบริการวิชาชีพ (ปัจจุบันสามารถสรุปได้แล้ว 7 บท และ 3 ภาคผนวก จากทั้งหมด 20 บท และ 3 ภาคผนวก) โดยประเทศสมาชิกยืนยันความตั้งใจที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดภายในปี 2562
2. การเจรจาเปิดตลาด
- เห็นชอบข้อเสนอของอาเซียนให้สรุปผลการเจรจาภายในเดือนพฤศจิกายน 2562
- รับทราบความคืบหน้าในการเจรจาเปิดตลาดไปแล้วร้อยละ 68 จากจำนวนคู่เจรจาทั้งหมด 225 คู่ ครอบคลุมประเด็น 3 ด้าน (สินค้า บริการ และการลงทุน)
- ขอให้ประเทศที่ยังสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดไม่ได้ เร่งหารือ 2 ฝ่ายเพื่อหาทางออก และเร่งสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดภายในเดือนพฤศจิการยน 2562
3. การเจรจาข้อบท
- รับทราบความคืบหน้าในการเจรจาจัดทำข้อบทไปแล้วร้อยละ 58 ของจำนวนข้อบททั้งหมด (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละรอบการเจรจาข้อบท)
- ที่ประชุมฯ ได้ผลักดันให้มีการเจรจาเรื่องสำคัญที่ติดขัด 3 เรื่อง ได้แก่ (1) ข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการ เรื่อง หลักการชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favoured Nation: MFN) ของฟิลิปปินส์ (2) การระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนกับรัฐ (Investor – State Dispute Settlement: ISDS) และ (3) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E - Commerce) ซึ่งตั้งเป้าให้หาข้อสรุปให้ได้ในการประชุม RCEP – TCN ในเดือนสิงหาคม 2562 และรายงานต่อที่ประชุมฯ ครั้งต่อไปในเดือนกันยายน 2562
- เห็นชอบข้อเสนอของอาเซียนให้เร่งสรุปประเด็นสำคัญของทุกประเทศให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 และเตรียมข้อบทให้พร้อมสำหรับขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้สามารถลงนามความตกลงฯ โดยเร็วที่สุดภายในปี 2563
ทั้งนี้ ไทยได้รับเสียงตอบรับที่ดีและการสนับสนุนจากสมาชิก RCEP อื่น โดยไทยคงต้องเดินหน้าแสดงบทบาทนำใน RCEP ต่อไป เนื่องจากความตกลงดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของไทย
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 กันยายน 2562