คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจ้าง นายบรรสาน บุนนาค เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ภายหลังครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 ตุลาคม 2562 โดยให้ได้รับค่าจ้างเท่ากับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ (พ.ข.ต.) และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้รับตามตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูตระดับสูง) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดำรงอยู่ก่อนเกษียณอายุราชการ ส่วนค่าย้ายถิ่นที่อยู่และค่าพาหนะเดินทางกลับประเทศไทยให้เป็นไปตามสิทธิที่พึงได้รับจากการพ้นหน้าที่ราชการในต่างประเทศตามปกติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ โดยจะเชิญผู้แทนจากต่างประเทศ ประเทศละ 1 ราย พร้อมคู่สมรส และเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ประจำญี่ปุ่น เข้าร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 22 – 23 ตุลาคม 2562 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบรับเป็นผู้แทนประเทศไทยพร้อมคู่สมรสเข้าร่วมในพระราชพิธีดังกล่าว
2. โดยนายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูตประจำญี่ปุ่นจะครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2562 และพ้นจากราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 อย่างไรก็ดี แม้ว่าเอกอัครราชทูตคนใหม่อาจเดินทางถึงกรุงโตเกียวได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 แต่อาจไม่สามารถถวายพระราชสาส์นต่อสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ได้ทันภายในระยะเวลา 21 วัน ก่อนงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ซึ่งจะส่งผลให้เอกอัครราชทูตคนใหม่ ไม่สามารถเข้าร่วมพระราชพิธีได้
3. กต. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การรับรองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนประเทศไทยและคู่สมรสในการเข้าร่วมงานพระราชพิธีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ตลอดจนดำรงความสัมพันธ์และมิตรภาพอันแน่นแฟ้น และยาวนานระหว่างไทยและญี่ปุ่น จึงเห็นควรให้จ้างนายบรรสาน บุนนาค ซึ่งจะครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษภายในวงเงิน 1.5 ล้านบาท เพื่อปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตไทยประจำญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 ตุลาคม 2562 โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายประจำปี 2563 ของ กต.
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 กันยายน 2562