ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

ข่าวการเมือง Tuesday October 29, 2019 17:48 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎรต่อไป

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. กำหนดให้ กสทช. มีกรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม หรือด้านอื่น ๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (เดิมให้แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จำนวนด้านละ 1 คน)

2. แก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. เช่น เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ต้องไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม เป็นต้น

3. แก้ไขเพิ่มเติมผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการ กสทช. เช่น รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดีผู้พิพากษา รองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการพระธรรมนูญ รองหัวหน้าศาลทหารกลาง หรือรองอธิบดีอัยการ เป็นหรือเคยเป็นทหาร หรือตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรี เป็นต้น และเพิ่มเติมการเป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเพื่อความชัดเจน

4. แก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสรรหา และการลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกรรมการ กสทช. ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ เช่น วิธีการลงคะแนนของคณะกรรมการสรรหาให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย การบันทึกเหตุผลในการลงคะแนนและผู้ซึ่งจะได้รับการคัดเลือกต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจำนวนคณะกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่ การดำเนินการคัดเลือกกรรมการโดยวุฒิสภา ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

5. ให้คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่และอำนาจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ผู้ได้รับเลือกหรือผู้ได้รับการสรรหา

6. เพิ่มบทเฉพาะกาลเพื่อให้กรรมการ กสทช. ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และหากมีตำแหน่งว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ กสทช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ จนกว่าจะมี กสทช. ใหม่ตามร่างพระราชบัญญัตินี้

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 ตุลาคม 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ