เรื่อง มาตรการด้านการงบประมาณเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
ด้วยประเทศไทยประสบสถานการณ์ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ในพื้นที่หลายจังหวัด ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ ความเป็นอยู่ และมีผลเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน่วยรับงบประมาณ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อน และฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ จึงเห็นสมควรให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการโดยใช้กลไกของการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยรับงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน
เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกาศใช้บังคับไม่ทันวันที่ 1 ตุลาคม 2562 อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งกรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 141 บัญญัติให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน ประกอบกับพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12 บัญญัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อนของหน่วยรับงบประมาณ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2562 ทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงเห็นสมควรพิจารณากำหนดมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน ดังนี้
1. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงซ่อมแซม ฟื้นฟูสถานที่ของส่วนราชการ หรือสิ่งก่อสร้างอันเป็นสาธารณประโยชน์ที่สามารถดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รวมทั้งให้พิจารณาใช้แรงงานจากประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงมาตรการต่าง ๆ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย
2. ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณารายการที่สามารถชะลอการดำเนินงานได้ภายใต้แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว หรือกรณีที่มีเงินเหลือจ่ายจากการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายงบประมาณ หรือจากการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว โดยให้หน่วยรับงบประมาณโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรเพื่อนำไปช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ หรือปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่ราชการหรือสิ่งอันเป็นสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุของภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2562 ให้กลับคืนสู่สภาพปกติ โดยให้จัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วน กำหนดเป้าหมายและสถานที่ดำเนินการให้ชัดเจน และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
กรณีที่หน่วยรับงบประมาณไม่สามารถโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรภายใต้แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อนได้ ให้หน่วยรับงบประมาณขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 และหรือระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559 ต่อไป
3. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับจัดสรรตามมาตรการนี้ ให้ถือเป็นงบประมาณที่ต้องนำไปหักออกจากงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้ขอตั้งงบประมาณและได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในรายการเดียวกันหรือมีวัตถุประสงค์เดียวกัน เช่น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทาง ค่าซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง ค่าใช้จ่ายในการบรรเทาผลกระทบหรือป้องกันอุทกภัย เป็นต้น และเมื่อหน่วยรับงบประมาณได้รับอนุมัติจัดสรรและนำไปใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันแล้ว ให้จัดทำบันทึกการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันและการเบิกจ่ายไว้ เพื่อนำไปหักออกจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกาศใช้บังคับแล้ว
4. กรณีที่หน่วยรับงบประมาณต้องมีการเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัยนอกเหนือจากที่ได้รับจัดสรรงบประมาณตามมาตรการนี้ และหน่วยรับงบประมาณมิได้ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รองรับไว้ ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ เห็นสมควรมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการใช้จ่ายและก่อหนี้ให้แล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562